
งาน Galaxy Unpacked ในเดือนสิงหาคม 2021 สิ้นสุดลง ซึ่งคาดว่าจะรวมถึง Samsung Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3 5G, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2 ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นพิเศษออกมาอีกด้วย ผลงานจะเป็นอย่างไรนั้นเราไปดูกันได้เลย
Contents
สรุป Galaxy Unpacked สิงหาคม 2021
- Galaxy Watch 4 Series
- Galaxy Z พับ3
- Galaxy Z Flip3 5G
- Galaxy Buds2
- สรุปราคาไทย
- Samsung x THOM BROWNE
Samsung Galaxy Watch4 Series

เปิดกิจกรรม Galaxy Unpacked อย่างแรกอย่าพูดเสียงดังทำเพลงเริ่มต้นด้วย Galaxy Watch4 Series ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่น (ตามปกติ) คือ Galaxy Watch4 และ Galaxy Watch4 Classic ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยน Watch4 ได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน สีของสายรัด อาจแตกต่างกัน (ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกันทั้งสองด้าน) หรือแม้แต่เปลี่ยนภาพบนหน้าจอตามที่คุณต้องการในมากถึง 40 แบบ

Watch4 มาพร้อมกับ OneUI Watch ที่ใช้ WareOS 3.0 ล่าสุดของ Google ซึ่งเต็มไปด้วยคุณสมบัติด้านสุขภาพมากมาย สิ่งแรกที่แสดงให้เห็นคือคุณสมบัติการตรวจจับการนอนหลับ (ชนิดใหม่) ที่สามารถตรวจจับการกรนของเราระหว่างการนอนหลับได้เช่นกัน (นอกจากนี้ยังมีการบันทึกแยกต่างหาก) นอกจากนี้ยังมีคุณลักษณะที่วัดน้ำหนักตัวของคุณที่เรียกว่า BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) ซึ่งมักพบในโรงยิม ฟีเจอร์นี้จะวัดค่าต่างๆ ได้เกือบ 98% ของเครื่อง DXA

Watch4 ที่เพิ่มเข้ามาใหม่อีกตัวหนึ่งคือ BioActive Sensor ซึ่งวัดความดันโลหิตและสามารถแสดงกราฟ ECG ได้ แต่น่าเสียดาย เพราะประเทศที่สามารถใช้คุณสมบัตินี้ได้ไม่รวมประเทศไทย ดังนั้นเราอาจต้องรอเป็นเวลานาน

รายการใหม่ที่น่าสนใจอีกอย่างที่เราใช้อยู่คือการควบคุมด้วยท่าทาง ที่เราตั้งค่าได้ผ่านแอพ

Watch4 ทั้งสองรุ่นรองรับมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่น IP68 และ 5ATM ในขณะที่ Watch4 ทำจากอลูมิเนียมและมีให้เลือกสองขนาด: 40 มม. และ 44 มม. ในขณะที่ Watch4 Classic ทำจากสแตนเลส เฉพาะรุ่นหน้าปัด 46 มม. เท่านั้นที่จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมเป็นต้นไปในราคา $249 และ $349 (ราคาภาษาไทยจะสรุปไว้ที่ท้ายบทความ)
นอกจากนี้ เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com
Samsung Galaxy Z พับ3

หลังจากเปิดตัว Galaxy Watch4 เสร็จแล้ว มาต่อกันที่ Samsung Galaxy Z Fold3 สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงคือหน้าจอพับด้านในที่ใช้แผง Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ที่มาพร้อมกับค่ารีเฟรช อัตราสูงถึง 120Hz พร้อมความสว่างเพิ่มขึ้น 29% หน้าจอด้านนอกยังเป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X แต่มีขนาด 6.2 นิ้วและมีอัตราการรีเฟรชสูงถึง 120Hz เช่นกัน

สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของ Z Fold3 คือเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีกล้องใต้หน้าจอ ทำให้สามารถแสดงภาพได้แบบ Full Grain ไม่มีจุดสีดำบนภาพอีกต่อไป และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Z Fold3 เป็นโทรศัพท์มือถือแบบพับได้เครื่องแรกที่รองรับการใช้ S Pen S Pen ได้รับการออกแบบ มาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถใช้กับหน้าจอแบบพับได้ ปลายปากกาจะเปลี่ยนเป็นยางนุ่ม ช่วยให้หน้าจอไม่เป็นรอย

สิ่งหนึ่งที่ Samsung แสดงให้เห็นบ่อยคือ Multitask ซึ่งด้วยหน้าจอขนาด 7.6 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่เพียงพอในการเปิดแอพหลายๆ แอพ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อนแอพสองแอพหรือเปิดแอพขึ้นมา พร้อมกันยังสามารถรับได้ 3 หน้าโดยเปิดคลิปบน Youtube พร้อมกันกับการเปิด Google Chrome 2 หน้า (ไม่ได้เปิด 2 แท็บ แต่เปิดแอป Chrome ซ้อนกัน 2 แอป) รวมทั้งเปิดแอป Microsoft Word/Power . ชี้ไปพร้อมกันด้วย 2 แอพฯ ที่แสดงประสิทธิภาพการประมวลผลของตัวเครื่องเอง

Galaxy Z Fold3 มาพร้อมกับกล้องทั้งหมด 5 ตัวที่สามารถใช้สลับกันได้ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายประเภทมากขึ้น กล้องหลังจะมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก กล้องอัลตร้าไวด์ และกล้องเทเลโฟโต้ 2X ซึ่งทั้งหมดมีความละเอียด 12MP เท่ากันสำหรับกล้องที่ถ่ายเซลฟี่หากไม่กางออก กล้องความละเอียด 10MP ถ่ายภาพ แต่ถ้ากางออก จะใช้กล้องที่ซ่อนอยู่ในการถ่ายภาพ ว่ากล้องนี้มีความละเอียด 4MP สำหรับถ่ายภาพนอกเหนือจากการถ่ายภาพแบบถือมือถือทั่วไป เราสามารถคลี่เครื่องออกได้ 90 องศา วางเครื่องในตำแหน่งที่ต้องการ คุณยังสามารถตั้งเวลาถ่ายภาพได้อีกด้วย

ในด้านความทนทานก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะ Galaxy Z Fold3 ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม Gorilla Glass Victus และมีมาตรฐานการกันน้ำระดับ IPX8 ที่เคยเป็นจุดอ่อน โดยในครั้งนี้ การกันน้ำจะเน้นไปที่จุดที่น้ำเข้าง่ายที่สุดคือบานพับ ซัมซุงพยายามหาวิธีจนบานพับกันน้ำได้ (แต่ยังใช้งานใต้น้ำไม่ได้เพียงเพื่อป้องกันไม่ให้หยดน้ำเข้าไปและทำให้บานพับเสียหาย)

อีกอย่างที่ Samsung พูดถึงและค่อนข้างสนใจโดยส่วนตัวคือลำโพงคู่ของ Galaxy Z Fold3 ที่เพิ่มความดังและเพิ่มมิติให้กับเสียงเวลาฟังเพลง เล่นเกม หรือดูหนังให้สนุกยิ่งขึ้นและด้วยระบบ Multi . -dimension Sound จะเพิ่มเสียงรอบข้างมากยิ่งขึ้น
สีที่มีจำหน่าย ได้แก่ Phantom Green, Phantom Black, Phantom Silver เพื่อนๆ สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com
Samsung Galaxy Z Flip3 5G


สำหรับ Galaxy Z Flip3 5G แบบเปิดโล่งมาว่ากันเรื่องสีกันก่อนนะครับ สีหลักที่จะวางจำหน่ายมีทั้งหมด 4 สี ครีม เขียว ลาเวนเดอร์ และดำ นอกจากนี้หากซื้อผ่าน samsung.com จะมีสีพิเศษเพิ่มเติมอีก 3 สี คือ เทา ขาว และชมพู เพื่อนๆสามารถซื้อให้เข้ากับสายของ Galaxy Watch4 ได้เช่นกัน จะเอาสติกเกอร์ติดให้สวยงามครับ หรือคุณสามารถใช้เคสแฟนซีที่ Samsung สร้างขึ้นเพื่อคุณ

สิ่งที่ได้รับการปรับปรุงจาก Z Flip รุ่นก่อนคือหน้าจอด้านนอก เนื่องจากเดิมมีขนาดเล็กมาก Samsung ได้เพิ่มขนาดเป็น 1.9 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Super AMOLED ทำให้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอ่านข้อความต่าง ๆ โดยใช้การควบคุมเครื่องเล่นเพลง หรือแม้แต่ใช้ถ่ายเซลฟี่

ส่วนหน้าจอภายในนั้นใช้หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ที่มีอัตราการรีเฟรช 120 Hz เท่ากับ Z Fold3 ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full-HD+ และมี Ultra Thin Glass ครอบทับอีกชั้นหนึ่ง ทำให้มีความยืดหยุ่นและทนต่อการขีดข่วนได้มากขึ้น

หนึ่งในคุณสมบัติเด่นที่มาพร้อมกับ Z Fold3 คือกันน้ำ IPX8 ใช้กรอบอลูมิเนียม Gorilla Glass Victus เรียกได้ว่างานนี้ ซัมซุงมีความทนทานมาก แถมครั้งนี้ยังได้ BTS เป็นพรีเซ็นเตอร์อีกด้วย (ลงทุนด้วยกัน)

สำหรับกล้องนั้น Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ 12MP ที่ประกอบด้วยกล้องหลักและกล้องอัลตร้าไวด์ แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือกล้องหน้าเป็น Gorilla พร้อมกระจก DX ซึ่ง Corning อ้างว่า แก้วชนิดนี้สามารถส่งผ่านแสงได้มากถึง 98% โดยไม่สูญเสียความแข็งแรง คุณลักษณะนี้ช่วยลดการเกิดวูบวาบ ทำให้ภาพที่ถ่ายไม่มีอาการขุ่นมัวและเบลอ
นอกจากนี้ เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปที่ Pre-Order และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com
Samsung Galaxy Buds2

ปิดท้ายด้วยหูฟัง Galaxy Buds อย่าง Galaxy Buds2 คราวนี้จึงนำ Galaxy Buds + มาอัพเกรดเพื่อเพิ่มความสามารถ โดยเพิ่มฟีเจอร์ ANC (Active Noise Cancellation) ที่มีอยู่ใน Buds Live และ Buds Pro แล้วขายในราคาที่เหมาะสม ทำให้เราหาหูฟังคุณภาพมาใช้ได้ง่ายขึ้น

ส่วนฟีเจอร์ ANC สามารถปรับได้จากแอพ Galaxy Wearable ที่ปรับระดับได้ 3 ระดับ พร้อมโหมด Transparency Mode ที่นำเสียงภายนอกมาสู่ระดับ 9 เดซิเบล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Voice Pickup Unit (VPU) ที่จะเปลี่ยนเป็นโหมดโปร่งใสโดยอัตโนมัติเมื่อเราพูด

เป็นส่วนหนึ่งของเสียง Galaxy Buds 2 เต็มไปด้วยสไตล์ของ Samsung มาพร้อมกับไดรเวอร์คู่ที่ประกอบด้วยวูฟเฟอร์ 11 มม. และทวีตเตอร์ 6.3 มม. และปรับแต่งโดย AKG ด้านละมีไมค์ 3 ตัว ช่วยในการตัด ANC และโหมดโปร่งใส นอกจากนี้ยังรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX2 ทำให้สามารถสวมใส่ออกกำลังกายได้

จุดแข็งอย่างหนึ่งของ Galaxy Buds2 คือเบากว่าและสวมใส่สบายกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ดูเหมือนว่า Samsung จะให้ความสำคัญกับน้ำหนักและความสะดวกสบายมากขึ้น เอียร์บัดมีขนาดเล็กลง 14.6% และเบากว่า 21% (เมื่อเทียบกับ Buds+) โดยแต่ละอันมีน้ำหนักเพียง 5 กรัม



ตลอดระยะเวลาการใช้งาน เมื่อเปิด ANC ไว้ ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 5 ชั่วโมง แต่ถ้าปิด ANC ไว้ ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 7.5 ชม. และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วสามารถ ใช้งานได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง (หากเปิด ANC) นอกจากนี้ Galaxy Buds2 ยังมีระบบ Fast Charge ที่ Samsung อ้างว่าชาร์จได้ 5 นาที เพื่อให้แบตเตอรี่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปสูงสุด 1 ชั่วโมง

สำหรับสี Galaxy Buds2 จะมีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเขียว และสีม่วง แต่สีเหล่านี้มีเฉพาะในเคสและบนหูฟังเท่านั้น ส่วนด้านนอกของเคสก็เป็นสีขาวทั้งหมดเช่นกัน นอกจากนี้ เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com
สรุปราคาขายในประเทศไทย

Samsung Galaxy Z พับ3
- 256GB: ราคา 57,900 บาท
- 512GB: ราคา 61,900 บาท

Samsung Galaxy Z Flip3 5G
- 128GB: ราคา 34,900 บาท
- 256GB: ราคา 36,900 บาท

Samsung Galaxy Watch4
- หน้าปัด 40mm (BT) สีดำทองชมพู ราคา 7,990 บาท
- หน้าปัด 44 มม.
- (BT) สีดำเขียว ราคา 8,990 บาท
- (LTE) สีดำเขียว ราคา 10,900 บาท
Samsung Galaxy Watch4 Classic
- หน้าปัด 46 มม.
- (BT) สีดำและสีเงิน ราคา 11,900 บาท
- (LTE) สีดำ ราคา 13,900 บาท

Samsung Galaxy Buds2
- ราคา 3,990 บาท
Samsung x THOM BROWNE

ในงาน Galaxy Unpacked นอกจากการเปิดตัวรุ่นปกติแล้ว Samsung ยังปิดท้ายด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศษอีกด้วย ครั้งนี้ร่วมกับ THOM BROWNE แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอเมริกัน เจ้าของเสื้อสีน้ำเงินแบรนด์ THOM BROWNE ซึ่งรุ่นพิเศษนี้จะขายเป็นชุด เป็นการแยกระหว่าง Samsung Galaxy Z Fold3 และ Samsung Galaxy Z Flip3 5G ชุดจะเหมือนกันสำหรับ Galaxy Buds2 THOM BROWNE Edition และ Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition ซึ่งนอกจากสิ่งของในกล่องแล้ว ธีมภายในตัวเครื่องยังเป็น Theme THOM BROWNE อีกด้วย ชุดนี้ THOM BROWNE จะเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม และจะจำหน่าย Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition แยกต่างหาก สามารถซื้อได้ในช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป

Thông tin thêm
#สรปงาน #Galaxy #Unpacked #August #เปดตว #Galaxy #Fold3 #Galaxy #Flip3 #Galaxy #Watch4 #และ #Galaxy #Buds2
[rule_3_plain]
#สรปงาน #Galaxy #Unpacked #August #เปดตว #Galaxy #Fold3 #Galaxy #Flip3 #Galaxy #Watch4 #และ #Galaxy #Buds2
จบลงไปแล้วนะครับกับงาน Galaxy Unpacked August 2021 ซึ่งก็ตามคาดว่ามีการเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3 5G, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2 ตามข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวรุ่นพิเศษเพิ่มอีกด้วย โดยในงานจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันได้เลยสรุปงาน Galaxy Unpacked August 2021Galaxy Watch 4 SeriesGalaxy Z Fold3Galaxy Z Flip3 5GGalaxy Buds2สรุปราคาไทย Samsung x THOM BROWNESamsung Galaxy Watch4 Seriesเปิดงาน Galaxy Unpacked มาอย่างแรกไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เริ่มด้วย Galaxy Watch4 Series เลย โดยจะมีการแบ่งออกเป็น 2 รุ่น (เหมือนเดิม) คือ Galaxy Watch4 และ Galaxy Watch4 Classic ซึ่งเราสามารถดัดแปลง Watch4 ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสายเป็นสีต่าง ๆ ได้ (ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกันทั้ง 2 ด้านก็ยังได้) หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนภาพบนหน้าจอให้เป็นแบบที่ชื่นชอบได้ถึง 40 แบบWatch4 นั้นมาพร้อมกับ OneUI Watch ที่มีพื้นฐานมาจาก WareOS 3.0 ตัวล่าสุดของ Google ทำให้อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพมากมาย โดยสิ่งแรกที่ถูกเอามาโชว์ให้เห็นเลยก็คือฟีเจอร์ตรวจจับการนอน (แบบใหม่นะ) ที่สามารถตรวจจับการกรนของเราระหว่างหลับได้อีกด้วย (มีการอัดเสียงไว้อีกต่างหาก) นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ใช้วัดค่าร่างกายที่เรียกว่า BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) ที่มักจะเจอยู่ในฟิตเนส โดยฟีเจอร์นี้จะตรวจวัดค่าต่าง ๆ ออกมาได้ใกล้เคียงกับเครื่อง DXA ถึง 98phần trămของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Watch4 ก็คือ BioActive Sensor ซึ่งมันสามารถตรวจวัดความดันเลือดและสามารถแสดงกราฟ ECG ออกมาให้เห็นได้เลย ทว่าก็น่าเสียดาย เนื่องจากประเทศที่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ไม่มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ดังนั้นเราอาจจะต้องรอกันต่อไปยาว ๆของใหม่อีกอย่างที่น่าสนใจและเราได้ใช้ด้วยนั่นก็คือ Gesture Control มันคือการสั่งการ Watch4 ผ่านทางการขยับข้อมือ โดยเราสามารถตั้งค่าได้ผ่านแอพเลยตัว Watch4 ทั้ง 2 รุ่นรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และ 5ATM ส่วนวัสดุงานประกอบของ Watch4 จะเป็นแบบ Aluminum มีหน้าปัดให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. ในขณะที่ Watch4 Classic ใช้เป็น Stainless Steel มีให้เลือกแค่รุ่นหน้าปัด 46 มม.เท่านั้น สำหรับการวางขายนั้นจะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมเป็นต้นไปด้วยราคา $249 และ $349 (ส่วนราคาไทยจะไปสรุปให้ที่ท้ายบทความ)นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะSamsung Galaxy Z Fold3หลังจากจบการเปิดตัว Galaxy Watch4 แล้วก็มาต่อกันที่ Samsung Galaxy Z Fold3 ต่อเลย โดยสิ่งที่แรกที่พูดถึงเลยก็คือหน้าจอพับด้านในที่ใช้พาแนล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ที่มากับค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz พร้อมด้วยความสว่างที่มากกว่าเดิมถึง 29% ส่วนจอด้านนอกนั้นก็เป็นหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X เช่นกัน แต่มีขนาด 6.2 นิ้ว และมีค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz เช่นกันด้วยหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจของ Z Fold3 นั่นก็คือการที่เป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีกล้องใต้จอ ทำให้สามารถแสดงผลภาพได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีจุดดำ ๆ บนภาพอีกแล้ว และอีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือ Z Fold3 เป้นมือถือพับได้เครื่องแรกที่รองรับการใช้งานปากกา S Pen โดยตัว S Pen นี้ได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้กับจอพับได้ โดยที่ตัวหัวปากกานั้นจะเปลี่ยนไปใช้ยางแบบนุ่ม ช่วยให้หน้าจอไม่เป็นรอยหนึ่งในสิ่งทที่ Samsung โชว์ค่อยข้างเยอะเลยก็คือการทำงานแบบ Multitask ซึ่งด้วยหน้าจอขนาด 7.6 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่มากพอจะสามารถเปิดแอพซ้อน ๆ กันได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดซ้อน 2 แอพ หรือเปิดซ้อนพร้อมกัน 3 หน้าก็ยังได้ โดยในคลิปเปิด Youtube พร้อม ๆ กับเปิด Google Chrome 2 หน้า (ไม่ใช่เปิด 2 Tab นะแต่เป็นการเปิดแอพ Chrome ซ้อนกัน 2 แอพ) อีกทั้งยังการการเปิดแอพ Microsoft Word/Power Point พร้อมกัน 2 แอพด้วย ซึ่งนี่เป็นการโชว์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการประมวลผลของตัวเครื่องนั่นเองGalaxy Z Fold3 นั้นมาพร้อมกับกล้องทั้งหมดถึง 5 ตัว สามารถใช้งานสลับกันได้ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายแนวมากขึ้น โดยกล้องหลังนั้นจะมีทั้งหมด 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลัก, กล้อง Ultrawide และกล้อง Telephoto 2X ซึ่งทั้ง 3 กล้องนี้มีความละเอียดเท่ากันที่ 12MP สำหรับกล้องที่เอาไว้ถ่ายเซลฟี่นั้นหากไม่ได้กางออกจะใช้กล้องความละเอียด 10MP ถ่าย แต่ถ้ากางออกจะใช้กล้องที่ซ่อนอยู่ใตจอถ่าย วึ่งกล้องนี้มีความละเอียดอยู่ที่ 4MP สำหรับเวลาถ่ายภาพนอกจากการถือถ่ายปกติ เราสามารถกางเครื่องออก 90 องศา วางเครื่องในจุดที่ต้องการ แล้วตั้งเวลาถ่ายได้อีกด้วยในเรื่องของความแข็งแรงทนทานนั้นก็หายห่วงได้เลยเพราะ Galaxy Z Fold3 นั้นมีตัวเครื่องที่ทำจาก Aluminum กระจกเป็น Gorilla Glass Victus และมีมาตราฐานกันน้ำ IPX8 ที่แต่เดิมเคยเป็นจุดอ่อนอยู่ด้วย โดยการกันน้ำในครั้งนี้โฟกัสไปที่จุดที่น้ำจะเข้าง่ายสุดก็คือที่สันพับนั่นเอง โดยทาง Samsung ได้พยายามหาทางจนทำให้บานพับสามรรถกันน้ำได้ (แต่ก็ยังไม่สามารถเอาไปใช้ใต้น้ำได้นะ แค่กันไม่ให้หยดน้ำเข้าไปทำความเสียหายที่ตัวบานพับ)อีกหนึ่งสิ่งที่ Samsung พูดถึงและโดยส่วนตัวค่อนข้างสนใจก็คือลำโพงคู่ที่อยู่ใน Galaxy Z Fold3 ทำให้เพิ่มความกระหึ่มและเพิ่มมิติให้เสียงเวลาฟังเพลง, เล่นเกม หรือดูหนังให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น และด้วยระบบ Multi-dimension Sound จะช่วยเพิ่มความโอบล้อมของเสียงได้มากขึ้นสำหรับสีที่มีจำหน่ายนั้นจะมีสีเขียว Phantom Green, ดำ Phantom Black, เงิน Phantom Silver นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไป Pre-Order และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะSamsung Galaxy Z Flip3 5Gสำหรับ Galaxy Z Flip3 5G นั้นเปิดมาก็พูดถึงเรื่องสีก่อนเลย โดยสีหลักที่จะขายนั้นมีทั้งหมด 4 สีคือสีครีม, เขียว, ม่วงลาเวนเดอร์ และดำ นอกจากนี้ถ้าซื้อผ่าน samsung.com จะมีสีพิเศษเพิ่มมาอีก 3 สีคือเทา, ขาว และชมพู โดยสีสันของเครื่องนั้นเเพื่อน ๆ สามารถซื้อให้เข้ากับสายของ Galaxy Watch4 ได้ด้วยนะเออ จะเอาสติกเกอร์มาติดให้สวยงาม หรือจะใช้เคสสุดแฟนตาซีที่ Samsung ทำออกมาให้ก็ได้นะสำหรับสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงจาก Z Flip รุ่นก่อนก็คือหน้าจอด้านนอก เพราแต่เดิมแล้วมันช่างเล้กกระจิ๊ดริดมาก Samsung เลยทำการเพิ่มขนาดเข้าไปจนเป็น 1.9 นิ้ว แถมยังเป็นจอ Super AMOLED อีกด้วยนะ ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอ่านข้อความต่าง ๆ ใช้ควมคุมเครื่องเล่นเพลง หรือแม้กระทั่งใช้ถ่ายเซลฟี่ก็ยังได้สำหรับตัวหน้าจอภายในนั้นใช้หน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X ที่มีค่า Refresh rate 120๋Hz เช่นเดียวกับ Z Fold3 ส่วนขนาดนั้นจะอยู่ที่ 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full-HD+ และมี Ultra Thin Glass มาปิดทับอีกชั้น ทำให้มีความยืดหยุ่นและทนต่อรอยขีดข่วนได้มากกว่าเดิมอย่างมากหนึ่งฟีเจอร์เด่นที่มาพร้อมกับ Z Fold3 เลยก็คือฟีเจอร์กันน้ำ IPX8 ใช้โครงเป็น Aluminum กระจกเป็น Gorilla Glass Victus เรียกได้ว่างานนี้ Samsung จัดเต็มเรื่องความทนทานมากเป็นพิเศษ แถมคราวนี้ยังเอาวง BTS มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อีกด้วยนะ (ลงทุนกันสุด ๆ)สำหรับกล้องถ่ายภาพนั้น Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12MP ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักและกล้อง Ultrawide แต่ที่พิเศษกว่าเครื่องไหน ๆ เลยก็คือตัวกระจกหน้ากล้องนั้นเป็นกระจก Gorilla with DX ซึ่ง Corning เคลมเอาไว้ว่า กระจกชนิดนี้สามารถส่งผ่านแสงได้มากถึง 98% โดยที่ไม่ลดทอนความแข็งแกร่งลง โดยคุณสมบัตินี้จะช่วยลดการเกิดแสงแฟลร์ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาไม่มีอาการฟุ้งและเบลอนั่นเองนอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไป Pre-Order และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะSamsung Galaxy Buds2ปิดท้ายด้วยหูฟัง Galaxy Buds อย่าง Galaxy Buds2 ที่คราวนี้ได้เอา Galaxy Buds+ ไปอัพเกรดเพิ่มความสามารถให้ โดยการเพิ่มฟีเจอร์ ANC (Active Noise Cancellation) ที่มีอยู่บน Buds Live และ Buds Pro เข้ามา แล้วขายในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้เราสามารถหาหูฟังคุณภาพมาใช้ได้ง่ายมากขึ้นสำหรับฟีเจอร์ ANC นั้นสามารถปรับค่าได้จากแอพ Galaxy Wearable โดยสามารถปรับค่าได้ 3 ระดับ พร้อมด้วย Transparency Mode นำเสียงภายนอกเข้ามาได้สูงสุด 9 เดซิเบล นอกจากนี้ยังมีการใส่ฟีเจอร์ Voice Pickup Unit (VPU) ที่จะสลับเปลี่ยนมาใช้ Transparency Mode อัตโนมัติเมื่อเราออกเสียงพูดไปด้วยส่วนในด้านเสียง Galaxy Buds 2 ก็จัดเต็มตามแบบฉบับของ Samsung คือมาพร้อมกับ Dual-Driver ที่ประกอบไปด้วย Woofer ขนาด 11 มม. และ Tweeter ขนาด 6.3 มม. และได้รับการจูนเสียงโดย AKG มีไมค์ข้างละ 3 ตัว ช่วยในการตัดเสียง ANC และ Transparency Mode นอกจากนี้ยังรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX2 ทำให้สามารถใส่ออกกำลังกายได้ด้วยหนึ่งในจุดเด่นของ Galaxy Buds2 คือมีน้ำหนักที่เบาและสวมใส่สบายมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ดูเหมือนคราวนี้ Samsung จะใส่ใจกับน้ำหนักและการสวมใส่ที่สบายมากยิ่งขึ้น โดยตัวหูฟังมีขนาดเล็กลง 14.6% และเบาขึ้น 21% (เมื่อเทียบกับ Buds+) โดยจุกแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียงแค่ 5 กรัมเท่านั้นสำหรับระยะเวลาในการใช้งานนั้นเมื่อมีการเปิด ANC จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สุงสุดที่ 5 ชั่วโมง แต่ถ้าปิด ANC ไว้ก็จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดที่ 7.5 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วจะสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 20 ชั่วโมง (ถ้าเปิด ANC นะ) นอกจากนี้ Galaxy Buds2 ยังมีระบบ Fast Charge ที่ Samsung เคลมเอาไว้ว่า ชาร์จทิ้งไว้ 5 นาที ก็ได้แบตเพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วถึง 1 ชั่วโมงสำหรับเรื่องสีนั้น Galaxy Buds2 จะมีทั้งหมด 4 สีคือสีขาว, ดำ, เขียว และม่วง แต่ทว่าสีเหล่านี้จะอยู่ภายในตัวเคสและที่ตัวหูฟังเท่านั้น ส่วนที่ด้านนอกตัวเคสจะเป็นสีขาวเหมือนกันหมด นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะสรุปราคาขายในไทยSamsung Galaxy Z Fold3256GB : ราคา 57,900 บาท512GB : ราคา 61,900 บาทSamsung Galaxy Z Flip3 5G128GB : ราคา 34,900 บาท256GB : ราคา 36,900 บาทSamsung Galaxy Watch4หน้าปัด 40 มม. (BT) สีดำและพิงก์โกลด์ ราคา 7,990 บาทหน้าปัด 44 มม.(BT) สีดำและเขียว ราคา 8,990 บาท(LTE) สีดำและเขียว ราคา 10,900 บาทSamsung Galaxy Watch4 Classicหน้าปัด 46 มม.(BT) สีดำและสีเงิน ราคา 11,900 บาท(LTE) สีดำ ราคา 13,900 บาทSamsung Galaxy Buds2ราคา 3,990 บาทSamsung x THOM BROWNEในงาน Galaxy Unpacked นอกเหนือจากการเปิดตัวรุ่นปกติแล้ว Samsung ยังปิดท้ายด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศาด้วย โดยในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับ THOM BROWNE นักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อฟ้า THOM BROWNE ซึ่งรุ่นพิเศานี้จะเป็นการขายแบบ Set คือแยกระหว่าง Samsung Galaxy Z Fold3 และ samsung Galaxy Z Flip3 5G ส่วนของใน Set นั้นจะเหมือนกันทั้ง Galaxy Buds2 THOM BROWNE Edition และ Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition ซึ่งนอกเหนือจากของในกล่องแล้ว Theme ภายในเครื่องยังเป็น Theme THOM BROWNE ด้วยนะเออ โดย Set THOM BROWNE นี้จะเปิดให้ Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมเป็นต้นไป และจะมีขาย Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition แยกต่างหากด้วย โดยสามารถซื้อได้ในช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป jQuery(document).ready(function($) {
$.post(‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘wpt_view_count’, id: ‘321290’});
}); jQuery(document).ready(function( $) {
$.post( ‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘mts_view_count’, id: ‘321290’});
});
#สรปงาน #Galaxy #Unpacked #August #เปดตว #Galaxy #Fold3 #Galaxy #Flip3 #Galaxy #Watch4 #และ #Galaxy #Buds2
[rule_2_plain]
#สรปงาน #Galaxy #Unpacked #August #เปดตว #Galaxy #Fold3 #Galaxy #Flip3 #Galaxy #Watch4 #และ #Galaxy #Buds2
[rule_2_plain]
#สรปงาน #Galaxy #Unpacked #August #เปดตว #Galaxy #Fold3 #Galaxy #Flip3 #Galaxy #Watch4 #และ #Galaxy #Buds2
[rule_3_plain]
#สรปงาน #Galaxy #Unpacked #August #เปดตว #Galaxy #Fold3 #Galaxy #Flip3 #Galaxy #Watch4 #และ #Galaxy #Buds2
จบลงไปแล้วนะครับกับงาน Galaxy Unpacked August 2021 ซึ่งก็ตามคาดว่ามีการเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3 5G, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2 ตามข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวรุ่นพิเศษเพิ่มอีกด้วย โดยในงานจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันได้เลยสรุปงาน Galaxy Unpacked August 2021Galaxy Watch 4 SeriesGalaxy Z Fold3Galaxy Z Flip3 5GGalaxy Buds2สรุปราคาไทย Samsung x THOM BROWNESamsung Galaxy Watch4 Seriesเปิดงาน Galaxy Unpacked มาอย่างแรกไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เริ่มด้วย Galaxy Watch4 Series เลย โดยจะมีการแบ่งออกเป็น 2 รุ่น (เหมือนเดิม) คือ Galaxy Watch4 และ Galaxy Watch4 Classic ซึ่งเราสามารถดัดแปลง Watch4 ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสายเป็นสีต่าง ๆ ได้ (ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกันทั้ง 2 ด้านก็ยังได้) หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนภาพบนหน้าจอให้เป็นแบบที่ชื่นชอบได้ถึง 40 แบบWatch4 นั้นมาพร้อมกับ OneUI Watch ที่มีพื้นฐานมาจาก WareOS 3.0 ตัวล่าสุดของ Google ทำให้อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพมากมาย โดยสิ่งแรกที่ถูกเอามาโชว์ให้เห็นเลยก็คือฟีเจอร์ตรวจจับการนอน (แบบใหม่นะ) ที่สามารถตรวจจับการกรนของเราระหว่างหลับได้อีกด้วย (มีการอัดเสียงไว้อีกต่างหาก) นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ใช้วัดค่าร่างกายที่เรียกว่า BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) ที่มักจะเจอยู่ในฟิตเนส โดยฟีเจอร์นี้จะตรวจวัดค่าต่าง ๆ ออกมาได้ใกล้เคียงกับเครื่อง DXA ถึง 98phần trămของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Watch4 ก็คือ BioActive Sensor ซึ่งมันสามารถตรวจวัดความดันเลือดและสามารถแสดงกราฟ ECG ออกมาให้เห็นได้เลย ทว่าก็น่าเสียดาย เนื่องจากประเทศที่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ไม่มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ดังนั้นเราอาจจะต้องรอกันต่อไปยาว ๆของใหม่อีกอย่างที่น่าสนใจและเราได้ใช้ด้วยนั่นก็คือ Gesture Control มันคือการสั่งการ Watch4 ผ่านทางการขยับข้อมือ โดยเราสามารถตั้งค่าได้ผ่านแอพเลยตัว Watch4 ทั้ง 2 รุ่นรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และ 5ATM ส่วนวัสดุงานประกอบของ Watch4 จะเป็นแบบ Aluminum มีหน้าปัดให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. ในขณะที่ Watch4 Classic ใช้เป็น Stainless Steel มีให้เลือกแค่รุ่นหน้าปัด 46 มม.เท่านั้น สำหรับการวางขายนั้นจะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมเป็นต้นไปด้วยราคา $249 และ $349 (ส่วนราคาไทยจะไปสรุปให้ที่ท้ายบทความ)นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะSamsung Galaxy Z Fold3หลังจากจบการเปิดตัว Galaxy Watch4 แล้วก็มาต่อกันที่ Samsung Galaxy Z Fold3 ต่อเลย โดยสิ่งที่แรกที่พูดถึงเลยก็คือหน้าจอพับด้านในที่ใช้พาแนล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ที่มากับค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz พร้อมด้วยความสว่างที่มากกว่าเดิมถึง 29% ส่วนจอด้านนอกนั้นก็เป็นหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X เช่นกัน แต่มีขนาด 6.2 นิ้ว และมีค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz เช่นกันด้วยหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจของ Z Fold3 นั่นก็คือการที่เป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีกล้องใต้จอ ทำให้สามารถแสดงผลภาพได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีจุดดำ ๆ บนภาพอีกแล้ว และอีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือ Z Fold3 เป้นมือถือพับได้เครื่องแรกที่รองรับการใช้งานปากกา S Pen โดยตัว S Pen นี้ได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้กับจอพับได้ โดยที่ตัวหัวปากกานั้นจะเปลี่ยนไปใช้ยางแบบนุ่ม ช่วยให้หน้าจอไม่เป็นรอยหนึ่งในสิ่งทที่ Samsung โชว์ค่อยข้างเยอะเลยก็คือการทำงานแบบ Multitask ซึ่งด้วยหน้าจอขนาด 7.6 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่มากพอจะสามารถเปิดแอพซ้อน ๆ กันได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดซ้อน 2 แอพ หรือเปิดซ้อนพร้อมกัน 3 หน้าก็ยังได้ โดยในคลิปเปิด Youtube พร้อม ๆ กับเปิด Google Chrome 2 หน้า (ไม่ใช่เปิด 2 Tab นะแต่เป็นการเปิดแอพ Chrome ซ้อนกัน 2 แอพ) อีกทั้งยังการการเปิดแอพ Microsoft Word/Power Point พร้อมกัน 2 แอพด้วย ซึ่งนี่เป็นการโชว์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการประมวลผลของตัวเครื่องนั่นเองGalaxy Z Fold3 นั้นมาพร้อมกับกล้องทั้งหมดถึง 5 ตัว สามารถใช้งานสลับกันได้ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายแนวมากขึ้น โดยกล้องหลังนั้นจะมีทั้งหมด 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลัก, กล้อง Ultrawide และกล้อง Telephoto 2X ซึ่งทั้ง 3 กล้องนี้มีความละเอียดเท่ากันที่ 12MP สำหรับกล้องที่เอาไว้ถ่ายเซลฟี่นั้นหากไม่ได้กางออกจะใช้กล้องความละเอียด 10MP ถ่าย แต่ถ้ากางออกจะใช้กล้องที่ซ่อนอยู่ใตจอถ่าย วึ่งกล้องนี้มีความละเอียดอยู่ที่ 4MP สำหรับเวลาถ่ายภาพนอกจากการถือถ่ายปกติ เราสามารถกางเครื่องออก 90 องศา วางเครื่องในจุดที่ต้องการ แล้วตั้งเวลาถ่ายได้อีกด้วยในเรื่องของความแข็งแรงทนทานนั้นก็หายห่วงได้เลยเพราะ Galaxy Z Fold3 นั้นมีตัวเครื่องที่ทำจาก Aluminum กระจกเป็น Gorilla Glass Victus และมีมาตราฐานกันน้ำ IPX8 ที่แต่เดิมเคยเป็นจุดอ่อนอยู่ด้วย โดยการกันน้ำในครั้งนี้โฟกัสไปที่จุดที่น้ำจะเข้าง่ายสุดก็คือที่สันพับนั่นเอง โดยทาง Samsung ได้พยายามหาทางจนทำให้บานพับสามรรถกันน้ำได้ (แต่ก็ยังไม่สามารถเอาไปใช้ใต้น้ำได้นะ แค่กันไม่ให้หยดน้ำเข้าไปทำความเสียหายที่ตัวบานพับ)อีกหนึ่งสิ่งที่ Samsung พูดถึงและโดยส่วนตัวค่อนข้างสนใจก็คือลำโพงคู่ที่อยู่ใน Galaxy Z Fold3 ทำให้เพิ่มความกระหึ่มและเพิ่มมิติให้เสียงเวลาฟังเพลง, เล่นเกม หรือดูหนังให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น และด้วยระบบ Multi-dimension Sound จะช่วยเพิ่มความโอบล้อมของเสียงได้มากขึ้นสำหรับสีที่มีจำหน่ายนั้นจะมีสีเขียว Phantom Green, ดำ Phantom Black, เงิน Phantom Silver นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไป Pre-Order และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะSamsung Galaxy Z Flip3 5Gสำหรับ Galaxy Z Flip3 5G นั้นเปิดมาก็พูดถึงเรื่องสีก่อนเลย โดยสีหลักที่จะขายนั้นมีทั้งหมด 4 สีคือสีครีม, เขียว, ม่วงลาเวนเดอร์ และดำ นอกจากนี้ถ้าซื้อผ่าน samsung.com จะมีสีพิเศษเพิ่มมาอีก 3 สีคือเทา, ขาว และชมพู โดยสีสันของเครื่องนั้นเเพื่อน ๆ สามารถซื้อให้เข้ากับสายของ Galaxy Watch4 ได้ด้วยนะเออ จะเอาสติกเกอร์มาติดให้สวยงาม หรือจะใช้เคสสุดแฟนตาซีที่ Samsung ทำออกมาให้ก็ได้นะสำหรับสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงจาก Z Flip รุ่นก่อนก็คือหน้าจอด้านนอก เพราแต่เดิมแล้วมันช่างเล้กกระจิ๊ดริดมาก Samsung เลยทำการเพิ่มขนาดเข้าไปจนเป็น 1.9 นิ้ว แถมยังเป็นจอ Super AMOLED อีกด้วยนะ ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอ่านข้อความต่าง ๆ ใช้ควมคุมเครื่องเล่นเพลง หรือแม้กระทั่งใช้ถ่ายเซลฟี่ก็ยังได้สำหรับตัวหน้าจอภายในนั้นใช้หน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X ที่มีค่า Refresh rate 120๋Hz เช่นเดียวกับ Z Fold3 ส่วนขนาดนั้นจะอยู่ที่ 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full-HD+ และมี Ultra Thin Glass มาปิดทับอีกชั้น ทำให้มีความยืดหยุ่นและทนต่อรอยขีดข่วนได้มากกว่าเดิมอย่างมากหนึ่งฟีเจอร์เด่นที่มาพร้อมกับ Z Fold3 เลยก็คือฟีเจอร์กันน้ำ IPX8 ใช้โครงเป็น Aluminum กระจกเป็น Gorilla Glass Victus เรียกได้ว่างานนี้ Samsung จัดเต็มเรื่องความทนทานมากเป็นพิเศษ แถมคราวนี้ยังเอาวง BTS มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อีกด้วยนะ (ลงทุนกันสุด ๆ)สำหรับกล้องถ่ายภาพนั้น Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12MP ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักและกล้อง Ultrawide แต่ที่พิเศษกว่าเครื่องไหน ๆ เลยก็คือตัวกระจกหน้ากล้องนั้นเป็นกระจก Gorilla with DX ซึ่ง Corning เคลมเอาไว้ว่า กระจกชนิดนี้สามารถส่งผ่านแสงได้มากถึง 98% โดยที่ไม่ลดทอนความแข็งแกร่งลง โดยคุณสมบัตินี้จะช่วยลดการเกิดแสงแฟลร์ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาไม่มีอาการฟุ้งและเบลอนั่นเองนอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไป Pre-Order และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะSamsung Galaxy Buds2ปิดท้ายด้วยหูฟัง Galaxy Buds อย่าง Galaxy Buds2 ที่คราวนี้ได้เอา Galaxy Buds+ ไปอัพเกรดเพิ่มความสามารถให้ โดยการเพิ่มฟีเจอร์ ANC (Active Noise Cancellation) ที่มีอยู่บน Buds Live และ Buds Pro เข้ามา แล้วขายในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้เราสามารถหาหูฟังคุณภาพมาใช้ได้ง่ายมากขึ้นสำหรับฟีเจอร์ ANC นั้นสามารถปรับค่าได้จากแอพ Galaxy Wearable โดยสามารถปรับค่าได้ 3 ระดับ พร้อมด้วย Transparency Mode นำเสียงภายนอกเข้ามาได้สูงสุด 9 เดซิเบล นอกจากนี้ยังมีการใส่ฟีเจอร์ Voice Pickup Unit (VPU) ที่จะสลับเปลี่ยนมาใช้ Transparency Mode อัตโนมัติเมื่อเราออกเสียงพูดไปด้วยส่วนในด้านเสียง Galaxy Buds 2 ก็จัดเต็มตามแบบฉบับของ Samsung คือมาพร้อมกับ Dual-Driver ที่ประกอบไปด้วย Woofer ขนาด 11 มม. และ Tweeter ขนาด 6.3 มม. และได้รับการจูนเสียงโดย AKG มีไมค์ข้างละ 3 ตัว ช่วยในการตัดเสียง ANC และ Transparency Mode นอกจากนี้ยังรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX2 ทำให้สามารถใส่ออกกำลังกายได้ด้วยหนึ่งในจุดเด่นของ Galaxy Buds2 คือมีน้ำหนักที่เบาและสวมใส่สบายมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ดูเหมือนคราวนี้ Samsung จะใส่ใจกับน้ำหนักและการสวมใส่ที่สบายมากยิ่งขึ้น โดยตัวหูฟังมีขนาดเล็กลง 14.6% และเบาขึ้น 21% (เมื่อเทียบกับ Buds+) โดยจุกแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียงแค่ 5 กรัมเท่านั้นสำหรับระยะเวลาในการใช้งานนั้นเมื่อมีการเปิด ANC จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สุงสุดที่ 5 ชั่วโมง แต่ถ้าปิด ANC ไว้ก็จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดที่ 7.5 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วจะสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 20 ชั่วโมง (ถ้าเปิด ANC นะ) นอกจากนี้ Galaxy Buds2 ยังมีระบบ Fast Charge ที่ Samsung เคลมเอาไว้ว่า ชาร์จทิ้งไว้ 5 นาที ก็ได้แบตเพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วถึง 1 ชั่วโมงสำหรับเรื่องสีนั้น Galaxy Buds2 จะมีทั้งหมด 4 สีคือสีขาว, ดำ, เขียว และม่วง แต่ทว่าสีเหล่านี้จะอยู่ภายในตัวเคสและที่ตัวหูฟังเท่านั้น ส่วนที่ด้านนอกตัวเคสจะเป็นสีขาวเหมือนกันหมด นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะสรุปราคาขายในไทยSamsung Galaxy Z Fold3256GB : ราคา 57,900 บาท512GB : ราคา 61,900 บาทSamsung Galaxy Z Flip3 5G128GB : ราคา 34,900 บาท256GB : ราคา 36,900 บาทSamsung Galaxy Watch4หน้าปัด 40 มม. (BT) สีดำและพิงก์โกลด์ ราคา 7,990 บาทหน้าปัด 44 มม.(BT) สีดำและเขียว ราคา 8,990 บาท(LTE) สีดำและเขียว ราคา 10,900 บาทSamsung Galaxy Watch4 Classicหน้าปัด 46 มม.(BT) สีดำและสีเงิน ราคา 11,900 บาท(LTE) สีดำ ราคา 13,900 บาทSamsung Galaxy Buds2ราคา 3,990 บาทSamsung x THOM BROWNEในงาน Galaxy Unpacked นอกเหนือจากการเปิดตัวรุ่นปกติแล้ว Samsung ยังปิดท้ายด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศาด้วย โดยในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับ THOM BROWNE นักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อฟ้า THOM BROWNE ซึ่งรุ่นพิเศานี้จะเป็นการขายแบบ Set คือแยกระหว่าง Samsung Galaxy Z Fold3 และ samsung Galaxy Z Flip3 5G ส่วนของใน Set นั้นจะเหมือนกันทั้ง Galaxy Buds2 THOM BROWNE Edition และ Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition ซึ่งนอกเหนือจากของในกล่องแล้ว Theme ภายในเครื่องยังเป็น Theme THOM BROWNE ด้วยนะเออ โดย Set THOM BROWNE นี้จะเปิดให้ Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมเป็นต้นไป และจะมีขาย Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition แยกต่างหากด้วย โดยสามารถซื้อได้ในช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป jQuery(document).ready(function($) {
$.post(‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘wpt_view_count’, id: ‘321290’});
}); jQuery(document).ready(function( $) {
$.post( ‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘mts_view_count’, id: ‘321290’});
});