ไทยกัมพูชา – หนุ่มดัตช์-สาวเกาหลีใต้ เจอบริการฟรีจากคนไทย แถมไม่ยอมรับทิปอีก (ถึงกับต้องถามย้ำซ้ำๆ)

มาดูบทความ “ไทยกัมพูชา – หนุ่มดัตช์-สาวเกาหลีใต้ เจอบริการฟรีจากคนไทย แถมไม่ยอมรับทิปอีก (ถึงกับต้องถามย้ำซ้ำๆ)” ที่รวบรวมโดย Đại Lý Suzuki จากแหล่งต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต ผู้แต่ง Thailand & The World มียอดวิวสูงบนแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก

Contents

การอ้างอิงวิดีโอ ไทยกัมพูชา – หนุ่มดัตช์-สาวเกาหลีใต้ เจอบริการฟรีจากคนไทย แถมไม่ยอมรับทิปอีก (ถึงกับต้องถามย้ำซ้ำๆ)

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไทยกัมพูชา – หนุ่มดัตช์-สาวเกาหลีใต้ เจอบริการฟรีจากคนไทย แถมไม่ยอมรับทิปอีก (ถึงกับต้องถามย้ำซ้ำๆ)

หากเราต้องการทราบมุมมองของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยอย่างมีอคติน้อยที่สุดหรือเป็นกลางที่สุด นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาตินั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า ที่ไม่มีแผนที่จะอยู่ในประเทศไทยหรือมีประเทศโปรดของตัวเองอยู่แล้วซึ่งแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เรื่องราวของ Jouke ชายชาวดัตช์วัย 26 ปี จากช่อง YouTube Travel with Jouke ซึ่งเมื่อ 5 ปีก่อนได้เดินทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยมีแฟนเป็นคนไทย การมาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรกของ Jouke เป็นเพราะแฟนของเขา ชวนให้ลองมาเที่ยวที่นี่ จากแผนเดิม ว่าจะไปพักผ่อนชายทะเล ในสเปนที่เขาคุ้นเคย ทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งวัฒนธรรม อาหาร ภาษาที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต ทำให้ Jouke เริ่มชอบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะเลิกรากับแฟนสาวในอีก 2 ปีต่อมา หลังจากนั้นก็ชวนพี่ชาย ร่วมเดินทางในเอเชียกับจีนเป็นประเทศแรกที่เขาอยากไปทำโครงการบางอย่างเพื่อเรียนจบด้านการจัดการโลจิสติกส์ แต่ถูกยกเลิก 2 ครั้ง จนเมื่อ 8 เดือนที่แล้วได้ข่าวว่าเวียดนามเปิดประเทศแล้ว ทำให้เขามีความสุขมากและไปที่นั่นทันที เขาได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่นั่น จากเหนือจรดใต้ และเขาเริ่มหลงรักเวียดนาม ที่เขาวางไว้คืออาจจะไปเที่ยวสัก 3 อาทิตย์แล้วค่อยกลับไปทำงานพาร์ทไทม์ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อหารายได้เพิ่ม เพื่อใช้เป็นทุนในการเดินทางในอนาคต ซึ่งคนส่วนใหญ่พยายามหางานประจำเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่เขาบอกว่ายังไม่ถึงเวลานั้น เขาอยากไปเที่ยวก่อน และเวียดนามก็เป็นประเทศที่เขาอยากไป เพราะรู้สึกว่าที่นั่นเป็นเหมือนบ้าน เขาก็พยายามหางานทำที่นั่น และเขาคิดว่าเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับเขา แม้ว่าประเทศอย่างเวียดนามหรือกัมพูชาจะยังไม่ก้าวหน้ามากนัก อาจเพราะอากาศที่ร้อนทำให้คนไม่อยากทำงานร่วมกัน แต่ประเทศเหล่านี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เขาประทับใจเวียดนามที่ผู้คนเป็นมิตร เปิดใจ และมีสังคมมากกว่าประเทศบ้านเกิด เวลาเขาเดินไปตามถนน คนเวียดนามจะมองและยิ้ม ที่เขาโดยไม่มีเหตุผล เขาชอบอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี เขาเกลียดอากาศหนาว ค่าครองชีพที่นั่นต่ำ ในเนเธอร์แลนด์ ค่าใช้จ่ายสูงมาก จนดูเป็นเรื่องตลก คนรุ่นใหม่สร้างฐานะได้ยาก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง Jouke กล่าวว่าเขาชอบคนเอเชียซึ่งเขาคิดว่าสวยกว่าคนผิวขาวในเนเธอร์แลนด์ อาจเป็นเพราะเขาเคยชินกับรูปร่างหน้าตาแบบนั้นตั้งแต่แรกเกิด เวียดนามยังมีธรรมชาติที่สวยงาม มีน้ำตกหลายแห่งโดยเฉพาะชายหาดยาวรวมกันหลายพันกิโลเมตร มีป่าไม้มาก อาหารก็ถูกใจเขามากเช่นกัน และนั่นทำให้การเดินทางครั้งแรกของ Jouke กลับมาที่เวียดนามอีกครั้ง ก่อนเดินทางเยือนกัมพูชา กระทั่งล่าสุด ได้เดินทางมาประเทศไทย ประเทศที่ 3 ตามที่ได้วางแผนไว้ โดยไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นประเทศไหนนั้นขึ้นอยู่กับวีซ่า ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวจากเนเธอร์แลนด์จำนวน 98,905 คน ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 21 ของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาประเทศไทย Jouke เริ่มเดินทางมาประเทศไทย กับการเข้าชมพระบรมมหาราชวัง ดูจะทึ่งกับ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ไม่ใช่แค่ความสวยงามของศิลปะเท่านั้น แต่เป็นการบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของคนไทยด้วย Jouke กล่าวว่าเขาสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงที่นั่นได้ เพื่อดูงานศิลปะเหล่านี้คนเดียว หลังจากเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น Jouke อยากกินผัดไทย ที่เป็นต้นตำรับจนมาเจอร้านอาหารติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขาบอกว่า ผัดไทยมีอยู่ทั่วโลก แต่ที่กรุงเทพฯ จะดีกว่า แล้วก็ไม่ได้กินผัดไทยมานานแล้วด้วย เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาอยากมาเมืองไทย อาหารยุโรปเทียบไม่ได้กับอาหารเอเชียเลย ที่สำคัญที่สุด อาหารเอเชียดีต่อสุขภาพมาก สังเกตโดยคนส่วนใหญ่ที่นี่ ที่ไม่ค่อยเจอคนอ้วน ในยุโรป Jouke พูดถึงการขับรถสวนทางกับบ้านของเขา จากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย ทำให้มักหมดสติ เข้าใจผิดอยู่เสมอ ทำให้ต้องระมัดระวังในการข้ามถนน Jouke ยังกล่าวถึงสายไฟและสายเคเบิลด้วย ห้อยโหนอยู่เขาบอกว่ากรุงเทพมีชื่อเสียงด้านนี้ มันมีข้อดีและข้อเสียของมัน ในยุโรป สายเคเบิลเหล่านี้ถูกฝังไว้ใต้ดิน หากมีสิ่งชำรุดต้องปิดถนนในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อขุดซ่อม Jouke สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 90 บาท เป็นผัดไทยกับกาแฟเย็น ซึ่งเขาจะให้ทิปมากกว่าเพราะอาหารอร่อยมาก และทิวทัศน์ก็สวยงาม จู๊คพูดถึงกรุงเทพฯไว้อย่างน่าสนใจ ทุกครั้งที่เขานึกถึงกรุงเทพฯ มันทำให้เขานึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Hangover เขาบอกว่าถนนทุกสายในกรุงเทพกว้างมาก มีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง และตุ๊กตุ๊กเต็มไปหมด แต่ตุ๊กตุ๊กที่นี่ไม่เหมือนที่อินเดียหรือกัมพูชา เพราะมักจะแต่งให้เหมือนรถแข่งมากกว่าจะเป็นรถรับจ้างสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนจะขึ้นรถตุ๊กตุ๊กมุ่งหน้าสู่ถนนข้าวสารและบอกว่าเสียงของรถเหมือนรถแข่งดังที่กล่าวไป เขายังกล่าวอีกว่า สัญญาณคนเดินถนนมีระยะเวลา 180 วินาที ซึ่งนานเกินไป ไม่มีใครรอนานขนาดนั้น แหล่งที่มา: .

ค้นหาบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับคีย์เวิร์ด ไทยกัมพูชา

ด้านล่างนี้คือผลการค้นหาสำหรับคำหลัก “ไทยกัมพูชา” จากหน้า Wikipedia ThaiLand ที่มีการค้นหามากที่สุดใน Google

ดูโพสต์ที่เจาะจงมากขึ้น

รูปภาพของ ไทยกัมพูชา

ไทยกัมพูชา

แหล่งที่มาของวิดีโอ หนุ่มดัตช์-สาวเกาหลีใต้ เจอบริการฟรีจากคนไทย แถมไม่ยอมรับทิปอีก (ถึงกับต้องถามย้ำซ้ำๆ)

https://www.youtube.com/watch?v=xSxiDZ18-xA

เพิ่มเติมเกี่ยวกับ หนุ่มดัตช์-สาวเกาหลีใต้ เจอบริการฟรีจากคนไทย แถมไม่ยอมรับทิปอีก (ถึงกับต้องถามย้ำซ้ำๆ)

  • ผู้แต่ง: Thailand & The World
  • จำนวนการดู: 126166
  • อัตรา: 5.00
  • ชอบ: 3215
  • ไม่ชอบ:
  • ค้นหาคำสำคัญ: comment ต่างชาติ,thailand,amphawa,อัมพวา,ตลาดน้ำอัมพวา,นักท่องเที่ยว,bangkok,กรุงเทพ,การท่องเที่ยว,floating market
  • คีย์เวิร์ดอื่นๆ: ไทยกัมพูชา
  • คำอธิบายวิดีโอ: หากเราต้องการทราบมุมมองของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยอย่างมีอคติน้อยที่สุดหรือเป็นกลางที่สุด นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาตินั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า ที่ไม่มีแผนที่จะอยู่ในประเทศไทยหรือมีประเทศโปรดของตัวเองอยู่แล้วซึ่งแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เรื่องราวของ Jouke ชายชาวดัตช์วัย 26 ปี จากช่อง YouTube Travel with Jouke ซึ่งเมื่อ 5 ปีก่อนได้เดินทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยมีแฟนเป็นคนไทย การมาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรกของ Jouke เป็นเพราะแฟนของเขา ชวนให้ลองมาเที่ยวที่นี่ จากแผนเดิม ว่าจะไปพักผ่อนชายทะเล ในสเปนที่เขาคุ้นเคย ทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งวัฒนธรรม อาหาร ภาษาที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต ทำให้ Jouke เริ่มชอบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะเลิกรากับแฟนสาวในอีก 2 ปีต่อมา หลังจากนั้นก็ชวนพี่ชาย ร่วมเดินทางในเอเชียกับจีนเป็นประเทศแรกที่เขาอยากไปทำโครงการบางอย่างเพื่อเรียนจบด้านการจัดการโลจิสติกส์ แต่ถูกยกเลิก 2 ครั้ง จนเมื่อ 8 เดือนที่แล้วได้ข่าวว่าเวียดนามเปิดประเทศแล้ว ทำให้เขามีความสุขมากและไปที่นั่นทันที เขาได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่นั่น จากเหนือจรดใต้ และเขาเริ่มหลงรักเวียดนาม ที่เขาวางไว้คืออาจจะไปเที่ยวสัก 3 อาทิตย์แล้วค่อยกลับไปทำงานพาร์ทไทม์ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อหารายได้เพิ่ม เพื่อใช้เป็นทุนในการเดินทางในอนาคต ซึ่งคนส่วนใหญ่พยายามหางานประจำเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่เขาบอกว่ายังไม่ถึงเวลานั้น เขาอยากไปเที่ยวก่อน และเวียดนามก็เป็นประเทศที่เขาอยากไป เพราะรู้สึกว่าที่นั่นเป็นเหมือนบ้าน เขาก็พยายามหางานทำที่นั่น และเขาคิดว่าเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับเขา แม้ว่าประเทศอย่างเวียดนามหรือกัมพูชาจะยังไม่ก้าวหน้ามากนัก อาจเพราะอากาศที่ร้อนทำให้คนไม่อยากทำงานร่วมกัน แต่ประเทศเหล่านี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เขาประทับใจเวียดนามที่ผู้คนเป็นมิตร เปิดใจ และมีสังคมมากกว่าประเทศบ้านเกิด เวลาเขาเดินไปตามถนน คนเวียดนามจะมองและยิ้ม ที่เขาโดยไม่มีเหตุผล เขาชอบอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี เขาเกลียดอากาศหนาว ค่าครองชีพที่นั่นต่ำ ในเนเธอร์แลนด์ ค่าใช้จ่ายสูงมาก จนดูเป็นเรื่องตลก คนรุ่นใหม่สร้างฐานะได้ยาก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง Jouke กล่าวว่าเขาชอบคนเอเชียซึ่งเขาคิดว่าสวยกว่าคนผิวขาวในเนเธอร์แลนด์ อาจเป็นเพราะเขาเคยชินกับรูปร่างหน้าตาแบบนั้นตั้งแต่แรกเกิด เวียดนามยังมีธรรมชาติที่สวยงาม มีน้ำตกหลายแห่งโดยเฉพาะชายหาดยาวรวมกันหลายพันกิโลเมตร มีป่าไม้มาก อาหารก็ถูกใจเขามากเช่นกัน และนั่นทำให้การเดินทางครั้งแรกของ Jouke กลับมาที่เวียดนามอีกครั้ง ก่อนเดินทางเยือนกัมพูชา กระทั่งล่าสุด ได้เดินทางมาประเทศไทย ประเทศที่ 3 ตามที่ได้วางแผนไว้ โดยไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นประเทศไหนนั้นขึ้นอยู่กับวีซ่า ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวจากเนเธอร์แลนด์จำนวน 98,905 คน ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 21 ของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาประเทศไทย Jouke เริ่มเดินทางมาประเทศไทย กับการเข้าชมพระบรมมหาราชวัง ดูจะทึ่งกับ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ไม่ใช่แค่ความสวยงามของศิลปะเท่านั้น แต่เป็นการบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของคนไทยด้วย Jouke กล่าวว่าเขาสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงที่นั่นได้ เพื่อดูงานศิลปะเหล่านี้คนเดียว หลังจากเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น Jouke อยากกินผัดไทย ที่เป็นต้นตำรับจนมาเจอร้านอาหารติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขาบอกว่า ผัดไทยมีอยู่ทั่วโลก แต่ที่กรุงเทพฯ จะดีกว่า แล้วก็ไม่ได้กินผัดไทยมานานแล้วด้วย เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาอยากมาเมืองไทย อาหารยุโรปเทียบไม่ได้กับอาหารเอเชียเลย ที่สำคัญที่สุด อาหารเอเชียดีต่อสุขภาพมาก สังเกตโดยคนส่วนใหญ่ที่นี่ ที่ไม่ค่อยเจอคนอ้วน ในยุโรป Jouke พูดถึงการขับรถสวนทางกับบ้านของเขา จากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย ทำให้มักหมดสติ เข้าใจผิดอยู่เสมอ ทำให้ต้องระมัดระวังในการข้ามถนน Jouke ยังกล่าวถึงสายไฟและสายเคเบิลด้วย ห้อยโหนอยู่เขาบอกว่ากรุงเทพมีชื่อเสียงด้านนี้ มันมีข้อดีและข้อเสียของมัน ในยุโรป สายเคเบิลเหล่านี้ถูกฝังไว้ใต้ดิน หากมีสิ่งชำรุดต้องปิดถนนในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อขุดซ่อม Jouke สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 90 บาท เป็นผัดไทยกับกาแฟเย็น ซึ่งเขาจะให้ทิปมากกว่าเพราะอาหารอร่อยมาก และทิวทัศน์ก็สวยงาม จู๊คพูดถึงกรุงเทพฯไว้อย่างน่าสนใจ ทุกครั้งที่เขานึกถึงกรุงเทพฯ มันทำให้เขานึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Hangover เขาบอกว่าถนนทุกสายในกรุงเทพกว้างมาก มีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง และตุ๊กตุ๊กเต็มไปหมด แต่ตุ๊กตุ๊กที่นี่ไม่เหมือนที่อินเดียหรือกัมพูชา เพราะมักจะแต่งให้เหมือนรถแข่งมากกว่าจะเป็นรถรับจ้างสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนจะขึ้นรถตุ๊กตุ๊กมุ่งหน้าสู่ถนนข้าวสารและบอกว่าเสียงของรถเหมือนรถแข่งดังที่กล่าวไป เขายังกล่าวอีกว่า สัญญาณคนเดินถนนมีระยะเวลา 180 วินาที ซึ่งนานเกินไป ไม่มีใครรอนานขนาดนั้น แหล่งที่มา: .

หากเราต้องการทราบมุมมองของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยอย่างมีอคติน้อยที่สุดหรือเป็นกลางที่สุด นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาตินั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า ที่ไม่มีแผนที่จะอยู่ในประเทศไทยหรือมีประเทศโปรดของตัวเองอยู่แล้วซึ่งแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เรื่องราวของ Jouke ชายชาวดัตช์วัย 26 ปี จากช่อง YouTube Travel with Jouke ซึ่งเมื่อ 5 ปีก่อนได้เดินทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยมีแฟนเป็นคนไทย การมาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรกของ Jouke เป็นเพราะแฟนของเขา ชวนให้ลองมาเที่ยวที่นี่ จากแผนเดิม ว่าจะไปพักผ่อนชายทะเล ในสเปนที่เขาคุ้นเคย ทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งวัฒนธรรม อาหาร ภาษาที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต ทำให้ Jouke เริ่มชอบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะเลิกรากับแฟนสาวในอีก 2 ปีต่อมา หลังจากนั้นก็ชวนพี่ชาย ร่วมเดินทางในเอเชียกับจีนเป็นประเทศแรกที่เขาอยากไปทำโครงการบางอย่างเพื่อเรียนจบด้านการจัดการโลจิสติกส์ แต่ถูกยกเลิก 2 ครั้ง จนเมื่อ 8 เดือนที่แล้วได้ข่าวว่าเวียดนามเปิดประเทศแล้ว ทำให้เขามีความสุขมากและไปที่นั่นทันที เขาได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่นั่น จากเหนือจรดใต้ และเขาเริ่มหลงรักเวียดนาม ที่เขาวางไว้คืออาจจะไปเที่ยวสัก 3 อาทิตย์แล้วค่อยกลับไปทำงานพาร์ทไทม์ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อหารายได้เพิ่ม เพื่อใช้เป็นทุนในการเดินทางในอนาคต ซึ่งคนส่วนใหญ่พยายามหางานประจำเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่เขาบอกว่ายังไม่ถึงเวลานั้น เขาอยากไปเที่ยวก่อน และเวียดนามก็เป็นประเทศที่เขาอยากไป เพราะรู้สึกว่าที่นั่นเป็นเหมือนบ้าน เขาก็พยายามหางานทำที่นั่น และเขาคิดว่าเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับเขา แม้ว่าประเทศอย่างเวียดนามหรือกัมพูชาจะยังไม่ก้าวหน้ามากนัก อาจเพราะอากาศที่ร้อนทำให้คนไม่อยากทำงานร่วมกัน แต่ประเทศเหล่านี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เขาประทับใจเวียดนามที่ผู้คนเป็นมิตร เปิดใจ และมีสังคมมากกว่าประเทศบ้านเกิด เวลาเขาเดินไปตามถนน คนเวียดนามจะมองและยิ้ม ที่เขาโดยไม่มีเหตุผล เขาชอบอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี เขาเกลียดอากาศหนาว ค่าครองชีพที่นั่นต่ำ ในเนเธอร์แลนด์ ค่าใช้จ่ายสูงมาก จนดูเป็นเรื่องตลก คนรุ่นใหม่สร้างฐานะได้ยาก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง Jouke กล่าวว่าเขาชอบคนเอเชียซึ่งเขาคิดว่าสวยกว่าคนผิวขาวในเนเธอร์แลนด์ อาจเป็นเพราะเขาเคยชินกับรูปร่างหน้าตาแบบนั้นตั้งแต่แรกเกิด เวียดนามยังมีธรรมชาติที่สวยงาม มีน้ำตกหลายแห่งโดยเฉพาะชายหาดยาวรวมกันหลายพันกิโลเมตร มีป่าไม้มาก อาหารก็ถูกใจเขามากเช่นกัน และนั่นทำให้การเดินทางครั้งแรกของ Jouke กลับมาที่เวียดนามอีกครั้ง ก่อนเดินทางเยือนกัมพูชา กระทั่งล่าสุด ได้เดินทางมาประเทศไทย ประเทศที่ 3 ตามที่ได้วางแผนไว้ โดยไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นประเทศไหนนั้นขึ้นอยู่กับวีซ่า ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวจากเนเธอร์แลนด์จำนวน 98,905 คน ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 21 ของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาประเทศไทย Jouke เริ่มเดินทางมาประเทศไทย กับการเข้าชมพระบรมมหาราชวัง ดูจะทึ่งกับ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ไม่ใช่แค่ความสวยงามของศิลปะเท่านั้น แต่เป็นการบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของคนไทยด้วย Jouke กล่าวว่าเขาสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงที่นั่นได้ เพื่อดูงานศิลปะเหล่านี้คนเดียว หลังจากเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น Jouke อยากกินผัดไทย ที่เป็นต้นตำรับจนมาเจอร้านอาหารติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขาบอกว่า ผัดไทยมีอยู่ทั่วโลก แต่ที่กรุงเทพฯ จะดีกว่า แล้วก็ไม่ได้กินผัดไทยมานานแล้วด้วย เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาอยากมาเมืองไทย อาหารยุโรปเทียบไม่ได้กับอาหารเอเชียเลย ที่สำคัญที่สุด อาหารเอเชียดีต่อสุขภาพมาก สังเกตโดยคนส่วนใหญ่ที่นี่ ที่ไม่ค่อยเจอคนอ้วน ในยุโรป Jouke พูดถึงการขับรถสวนทางกับบ้านของเขา จากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย ทำให้มักหมดสติ เข้าใจผิดอยู่เสมอ ทำให้ต้องระมัดระวังในการข้ามถนน Jouke ยังกล่าวถึงสายไฟและสายเคเบิลด้วย ห้อยโหนอยู่เขาบอกว่ากรุงเทพมีชื่อเสียงด้านนี้ มันมีข้อดีและข้อเสียของมัน ในยุโรป สายเคเบิลเหล่านี้ถูกฝังไว้ใต้ดิน หากมีสิ่งชำรุดต้องปิดถนนในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อขุดซ่อม Jouke สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 90 บาท เป็นผัดไทยกับกาแฟเย็น ซึ่งเขาจะให้ทิปมากกว่าเพราะอาหารอร่อยมาก และทิวทัศน์ก็สวยงาม จู๊คพูดถึงกรุงเทพฯไว้อย่างน่าสนใจ ทุกครั้งที่เขานึกถึงกรุงเทพฯ มันทำให้เขานึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Hangover เขาบอกว่าถนนทุกสายในกรุงเทพกว้างมาก มีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง และตุ๊กตุ๊กเต็มไปหมด แต่ตุ๊กตุ๊กที่นี่ไม่เหมือนที่อินเดียหรือกัมพูชา เพราะมักจะแต่งให้เหมือนรถแข่งมากกว่าจะเป็นรถรับจ้างสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนจะขึ้นรถตุ๊กตุ๊กมุ่งหน้าสู่ถนนข้าวสารและบอกว่าเสียงของรถเหมือนรถแข่งดังที่กล่าวไป เขายังกล่าวอีกว่า สัญญาณคนเดินถนนมีระยะเวลา 180 วินาที ซึ่งนานเกินไป ไม่มีใครรอนานขนาดนั้น แหล่งที่มา: .

หากเราต้องการทราบมุมมองของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยอย่างมีอคติน้อยที่สุดหรือเป็นกลางที่สุด นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาตินั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า ที่ไม่มีแผนที่จะอยู่ในประเทศไทยหรือมีประเทศโปรดของตัวเองอยู่แล้วซึ่งแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เรื่องราวของ Jouke ชายชาวดัตช์วัย 26 ปี จากช่อง YouTube Travel with Jouke ซึ่งเมื่อ 5 ปีก่อนได้เดินทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยมีแฟนเป็นคนไทย การมาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรกของ Jouke เป็นเพราะแฟนของเขา ชวนให้ลองมาเที่ยวที่นี่ จากแผนเดิม ว่าจะไปพักผ่อนชายทะเล ในสเปนที่เขาคุ้นเคย ทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งวัฒนธรรม อาหาร ภาษาที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต ทำให้ Jouke เริ่มชอบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะเลิกรากับแฟนสาวในอีก 2 ปีต่อมา หลังจากนั้นก็ชวนพี่ชาย ร่วมเดินทางในเอเชียกับจีนเป็นประเทศแรกที่เขาอยากไปทำโครงการบางอย่างเพื่อเรียนจบด้านการจัดการโลจิสติกส์ แต่ถูกยกเลิก 2 ครั้ง จนเมื่อ 8 เดือนที่แล้วได้ข่าวว่าเวียดนามเปิดประเทศแล้ว ทำให้เขามีความสุขมากและไปที่นั่นทันที เขาได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่นั่น จากเหนือจรดใต้ และเขาเริ่มหลงรักเวียดนาม ที่เขาวางไว้คืออาจจะไปเที่ยวสัก 3 อาทิตย์แล้วค่อยกลับไปทำงานพาร์ทไทม์ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อหารายได้เพิ่ม เพื่อใช้เป็นทุนในการเดินทางในอนาคต ซึ่งคนส่วนใหญ่พยายามหางานประจำเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่เขาบอกว่ายังไม่ถึงเวลานั้น เขาอยากไปเที่ยวก่อน และเวียดนามก็เป็นประเทศที่เขาอยากไป เพราะรู้สึกว่าที่นั่นเป็นเหมือนบ้าน เขาก็พยายามหางานทำที่นั่น และเขาคิดว่าเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับเขา แม้ว่าประเทศอย่างเวียดนามหรือกัมพูชาจะยังไม่ก้าวหน้ามากนัก อาจเพราะอากาศที่ร้อนทำให้คนไม่อยากทำงานร่วมกัน แต่ประเทศเหล่านี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เขาประทับใจเวียดนามที่ผู้คนเป็นมิตร เปิดใจ และมีสังคมมากกว่าประเทศบ้านเกิด เวลาเขาเดินไปตามถนน คนเวียดนามจะมองและยิ้ม ที่เขาโดยไม่มีเหตุผล เขาชอบอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี เขาเกลียดอากาศหนาว ค่าครองชีพที่นั่นต่ำ ในเนเธอร์แลนด์ ค่าใช้จ่ายสูงมาก จนดูเป็นเรื่องตลก คนรุ่นใหม่สร้างฐานะได้ยาก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง Jouke กล่าวว่าเขาชอบคนเอเชียซึ่งเขาคิดว่าสวยกว่าคนผิวขาวในเนเธอร์แลนด์ อาจเป็นเพราะเขาเคยชินกับรูปร่างหน้าตาแบบนั้นตั้งแต่แรกเกิด เวียดนามยังมีธรรมชาติที่สวยงาม มีน้ำตกหลายแห่งโดยเฉพาะชายหาดยาวรวมกันหลายพันกิโลเมตร มีป่าไม้มาก อาหารก็ถูกใจเขามากเช่นกัน และนั่นทำให้การเดินทางครั้งแรกของ Jouke กลับมาที่เวียดนามอีกครั้ง ก่อนเดินทางเยือนกัมพูชา กระทั่งล่าสุด ได้เดินทางมาประเทศไทย ประเทศที่ 3 ตามที่ได้วางแผนไว้ โดยไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นประเทศไหนนั้นขึ้นอยู่กับวีซ่า ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวจากเนเธอร์แลนด์จำนวน 98,905 คน ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 21 ของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาประเทศไทย Jouke เริ่มเดินทางมาประเทศไทย กับการเข้าชมพระบรมมหาราชวัง ดูจะทึ่งกับ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ไม่ใช่แค่ความสวยงามของศิลปะเท่านั้น แต่เป็นการบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของคนไทยด้วย Jouke กล่าวว่าเขาสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงที่นั่นได้ เพื่อดูงานศิลปะเหล่านี้คนเดียว หลังจากเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น Jouke อยากกินผัดไทย ที่เป็นต้นตำรับจนมาเจอร้านอาหารติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขาบอกว่า ผัดไทยมีอยู่ทั่วโลก แต่ที่กรุงเทพฯ จะดีกว่า แล้วก็ไม่ได้กินผัดไทยมานานแล้วด้วย เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาอยากมาเมืองไทย อาหารยุโรปเทียบไม่ได้กับอาหารเอเชียเลย ที่สำคัญที่สุด อาหารเอเชียดีต่อสุขภาพมาก สังเกตโดยคนส่วนใหญ่ที่นี่ ที่ไม่ค่อยเจอคนอ้วน ในยุโรป Jouke พูดถึงการขับรถสวนทางกับบ้านของเขา จากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย ทำให้มักหมดสติ เข้าใจผิดอยู่เสมอ ทำให้ต้องระมัดระวังในการข้ามถนน Jouke ยังกล่าวถึงสายไฟและสายเคเบิลด้วย ห้อยโหนอยู่เขาบอกว่ากรุงเทพมีชื่อเสียงด้านนี้ มันมีข้อดีและข้อเสียของมัน ในยุโรป สายเคเบิลเหล่านี้ถูกฝังไว้ใต้ดิน หากมีสิ่งชำรุดต้องปิดถนนในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อขุดซ่อม Jouke สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 90 บาท เป็นผัดไทยกับกาแฟเย็น ซึ่งเขาจะให้ทิปมากกว่าเพราะอาหารอร่อยมาก และทิวทัศน์ก็สวยงาม จู๊คพูดถึงกรุงเทพฯไว้อย่างน่าสนใจ ทุกครั้งที่เขานึกถึงกรุงเทพฯ มันทำให้เขานึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Hangover เขาบอกว่าถนนทุกสายในกรุงเทพกว้างมาก มีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง และตุ๊กตุ๊กเต็มไปหมด แต่ตุ๊กตุ๊กที่นี่ไม่เหมือนที่อินเดียหรือกัมพูชา เพราะมักจะแต่งให้เหมือนรถแข่งมากกว่าจะเป็นรถรับจ้างสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนจะขึ้นรถตุ๊กตุ๊กมุ่งหน้าสู่ถนนข้าวสารและบอกว่าเสียงของรถเหมือนรถแข่งดังที่กล่าวไป เขายังกล่าวอีกว่า สัญญาณคนเดินถนนมีระยะเวลา 180 วินาที ซึ่งนานเกินไป ไม่มีใครรอนานขนาดนั้น แหล่งที่มา: .

หากเราต้องการทราบมุมมองของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยอย่างมีอคติน้อยที่สุดหรือเป็นกลางที่สุด นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาตินั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า ที่ไม่มีแผนที่จะอยู่ในประเทศไทยหรือมีประเทศโปรดของตัวเองอยู่แล้วซึ่งแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เรื่องราวของ Jouke ชายชาวดัตช์วัย 26 ปี จากช่อง YouTube Travel with Jouke ซึ่งเมื่อ 5 ปีก่อนได้เดินทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยมีแฟนเป็นคนไทย การมาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรกของ Jouke เป็นเพราะแฟนของเขา ชวนให้ลองมาเที่ยวที่นี่ จากแผนเดิม ว่าจะไปพักผ่อนชายทะเล ในสเปนที่เขาคุ้นเคย ทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งวัฒนธรรม อาหาร ภาษาที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต ทำให้ Jouke เริ่มชอบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะเลิกรากับแฟนสาวในอีก 2 ปีต่อมา หลังจากนั้นก็ชวนพี่ชาย ร่วมเดินทางในเอเชียกับจีนเป็นประเทศแรกที่เขาอยากไปทำโครงการบางอย่างเพื่อเรียนจบด้านการจัดการโลจิสติกส์ แต่ถูกยกเลิก 2 ครั้ง จนเมื่อ 8 เดือนที่แล้วได้ข่าวว่าเวียดนามเปิดประเทศแล้ว ทำให้เขามีความสุขมากและไปที่นั่นทันที เขาได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่นั่น จากเหนือจรดใต้ และเขาเริ่มหลงรักเวียดนาม ที่เขาวางไว้คืออาจจะไปเที่ยวสัก 3 อาทิตย์แล้วค่อยกลับไปทำงานพาร์ทไทม์ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อหารายได้เพิ่ม เพื่อใช้เป็นทุนในการเดินทางในอนาคต ซึ่งคนส่วนใหญ่พยายามหางานประจำเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่เขาบอกว่ายังไม่ถึงเวลานั้น เขาอยากไปเที่ยวก่อน และเวียดนามก็เป็นประเทศที่เขาอยากไป เพราะรู้สึกว่าที่นั่นเป็นเหมือนบ้าน เขาก็พยายามหางานทำที่นั่น และเขาคิดว่าเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับเขา แม้ว่าประเทศอย่างเวียดนามหรือกัมพูชาจะยังไม่ก้าวหน้ามากนัก อาจเพราะอากาศที่ร้อนทำให้คนไม่อยากทำงานร่วมกัน แต่ประเทศเหล่านี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เขาประทับใจเวียดนามที่ผู้คนเป็นมิตร เปิดใจ และมีสังคมมากกว่าประเทศบ้านเกิด เวลาเขาเดินไปตามถนน คนเวียดนามจะมองและยิ้ม ที่เขาโดยไม่มีเหตุผล เขาชอบอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี เขาเกลียดอากาศหนาว ค่าครองชีพที่นั่นต่ำ ในเนเธอร์แลนด์ ค่าใช้จ่ายสูงมาก จนดูเป็นเรื่องตลก คนรุ่นใหม่สร้างฐานะได้ยาก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง Jouke กล่าวว่าเขาชอบคนเอเชียซึ่งเขาคิดว่าสวยกว่าคนผิวขาวในเนเธอร์แลนด์ อาจเป็นเพราะเขาเคยชินกับรูปร่างหน้าตาแบบนั้นตั้งแต่แรกเกิด เวียดนามยังมีธรรมชาติที่สวยงาม มีน้ำตกหลายแห่งโดยเฉพาะชายหาดยาวรวมกันหลายพันกิโลเมตร มีป่าไม้มาก อาหารก็ถูกใจเขามากเช่นกัน และนั่นทำให้การเดินทางครั้งแรกของ Jouke กลับมาที่เวียดนามอีกครั้ง ก่อนเดินทางเยือนกัมพูชา กระทั่งล่าสุด ได้เดินทางมาประเทศไทย ประเทศที่ 3 ตามที่ได้วางแผนไว้ โดยไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นประเทศไหนนั้นขึ้นอยู่กับวีซ่า ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวจากเนเธอร์แลนด์จำนวน 98,905 คน ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 21 ของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางมาประเทศไทย Jouke เริ่มเดินทางมาประเทศไทย กับการเข้าชมพระบรมมหาราชวัง ดูจะทึ่งกับ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ไม่ใช่แค่ความสวยงามของศิลปะเท่านั้น แต่เป็นการบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของคนไทยด้วย Jouke กล่าวว่าเขาสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงที่นั่นได้ เพื่อดูงานศิลปะเหล่านี้คนเดียว หลังจากเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น Jouke อยากกินผัดไทย ที่เป็นต้นตำรับจนมาเจอร้านอาหารติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขาบอกว่า ผัดไทยมีอยู่ทั่วโลก แต่ที่กรุงเทพฯ จะดีกว่า แล้วก็ไม่ได้กินผัดไทยมานานแล้วด้วย เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาอยากมาเมืองไทย อาหารยุโรปเทียบไม่ได้กับอาหารเอเชียเลย ที่สำคัญที่สุด อาหารเอเชียดีต่อสุขภาพมาก สังเกตโดยคนส่วนใหญ่ที่นี่ ที่ไม่ค่อยเจอคนอ้วน ในยุโรป Jouke พูดถึงการขับรถสวนทางกับบ้านของเขา จากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย ทำให้มักหมดสติ เข้าใจผิดอยู่เสมอ ทำให้ต้องระมัดระวังในการข้ามถนน Jouke ยังกล่าวถึงสายไฟและสายเคเบิลด้วย ห้อยโหนอยู่เขาบอกว่ากรุงเทพมีชื่อเสียงด้านนี้ มันมีข้อดีและข้อเสียของมัน ในยุโรป สายเคเบิลเหล่านี้ถูกฝังไว้ใต้ดิน หากมีสิ่งชำรุดต้องปิดถนนในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อขุดซ่อม Jouke สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 90 บาท เป็นผัดไทยกับกาแฟเย็น ซึ่งเขาจะให้ทิปมากกว่าเพราะอาหารอร่อยมาก และทิวทัศน์ก็สวยงาม จู๊คพูดถึงกรุงเทพฯไว้อย่างน่าสนใจ ทุกครั้งที่เขานึกถึงกรุงเทพฯ มันทำให้เขานึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Hangover เขาบอกว่าถนนทุกสายในกรุงเทพกว้างมาก มีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง และตุ๊กตุ๊กเต็มไปหมด แต่ตุ๊กตุ๊กที่นี่ไม่เหมือนที่อินเดียหรือกัมพูชา เพราะมักจะแต่งให้เหมือนรถแข่งมากกว่าจะเป็นรถรับจ้างสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนจะขึ้นรถตุ๊กตุ๊กมุ่งหน้าสู่ถนนข้าวสารและบอกว่าเสียงของรถเหมือนรถแข่งดังที่กล่าวไป เขายังกล่าวอีกว่า สัญญาณคนเดินถนนมีระยะเวลา 180 วินาที ซึ่งนานเกินไป ไม่มีใครรอนานขนาดนั้น แหล่งที่มา: .

แหล่งรวม: Đại lý Suzuki

#หนมดตชสาวเกาหลใต #เจอบรการฟรจากคนไทย #แถมไมยอมรบทปอก #ถงกบตองถามยำซำๆ

About Lê Lan Ánh

Check Also

ไทยกัมพูชา – เราตามหลังไทยมาก | คอมเมนต์ชาวกัมพูชาทำไม ไทยถึงพัฒนาไปได้ไกลกว่ากัมพูชา!!

มาดูบทความ “ไทยกัมพูชา – เราตามหลังไทยมาก | คอมเมนต์ชาวกัมพูชาทำไม ไทยถึงพัฒนาไปได้ไกลกว่ากัมพูชา!!” ที่รวบรวมโดย Đại Lý Suzuki จากแหล่งต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต ผู้แต่ง Apple …

22 comments

  1. ถ้าชอบคลิป รบกวนกด Like ใต้คลิปให้ด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ ?

  2. ตกลงมึงพูดถึงประเทศใหน มั่วเนียนเลยนะ

  3. โดนเพราะแถวถนนข้าวสาร ทางขึ้นรถเมล์ เวอร์เทรดเซนเตอร์ น่าจะมีตำรวจท่องเที่ยวไปยืนคุมไว้ ขนาดเราคนไทย พอไปโบกรถ มันไม่ไป มันจะเอานักท่องเที่ยว

  4. เรื่อง​ ความซื่อสัตย์​ ไม่มีชนเชื้อใดเกิน​ พวกโซ่​ คนภูเขา​ สกลกาสิน​ มุก( ตามท่าน​ พระสิ้นคิด​ เล่านิทาน​ )​พิมพ์​ว่า​ * พระสิ้นคิด​ * ไปฟัง​ บ้เสื่อ

  5. บางทีตุ๊กๆเมืองไทยอาจจะไม่ใช่สัญลักษณ์​ด้านเอกลักษณ์​หรอก สัญลักษณ์​แห่งการหลอกลวง และแว๊น

  6. ตุ๊กๆและแท็กซี่แถววัดพระแก้วและวัดโพธิ์
    จะไม่รับผู้โดยสารคนไทยค่ะ เจอมาหลาย
    ครั้งมาก จ้องแต่จะเอาเปรียบผู้โดยสารต่าง
    ชาติ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องหาทางแก้ไข
    ช่วยกันปรับทัศนคติของพวกเค้า อย่าทุบ
    หม้อข้าวตัวเอง ทำลายบรรยากาศการ
    ท่องเที่ยวและภาพพจน์ประเทศไทย

  7. ประเทศไทยดีทุกอย่างแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การคมนาคม เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงผู้คนที่มีจิตใจเป็นมิตร แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ประเทศไทยดูไม่ดีคือ สามกีบครับ

  8. นักท่องเที่ยวไม่ใช่เทวดา คนพวกนี้ชอบเหยียดคนไทย หวังแค่ยอดวิว

  9. พวกคนขับตุ๊กๆกับคนขับแทกซี่นี่แหละตัวถ่วงความเจริญการท่องเที่ยว(และเป็นส่วนใหญ่ด้วยนะ) ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะหมดไป ตอนไม่มีนักท่องเที่ยวก็โอดครวญว่าไม่มีรายได้ แต่พอมีนักท่องเที่ยวก็มาเซ้าซี้กับนักท่องเที่ยว บ้างก็โกงค่าโดยสาร สารพัดวิธี ขับรถก็ไม่ค่อยจะเคารพกฏจราจร แถมคนไทยด้วยกันมันยังทำเลยอย่าว่าแต่กับคนต่างชาติ

  10. สันดานรถแท็กซี่ กับ รถตุ๊กๆ นี้เฮี้ยไม่เลิก แล้วบอกไม่มีลูกค้า ก็สันดานแบบนี้ไงครับ ???‍♂️

  11. การขอดเกล็ดปลาตลาดที่ไหนก้อมีเลือดปลากระเด็นที่เวียด.คงไม่มีสินะประเด็นสายไฟลงใต้ดินเสียมากกว่าได้เพราะเมืองไทยน้ำท่วมทุกปีถึงว่าสาวไทยกับนายคนนี้จึงเลิกกันมาเมืองไทยแพลบเดียวเหล่หญิงเกาหลีซะแล้วแบบนี้กลับไปเวียต.หาสาวเวียต.ดีกว่าไม่แปลกใจทำไมมีผู้ติดตามน้อย No every country perfect .

  12. อยากไปเที่ยวละได้แฟน แบบนี้มั่ง

  13. เพิ่งมาเที่ยวเมืองไทยครั้งเเรก แต่ทำไมถึงรู้ว่าที่ถนนข้าวสารนั้นเปลี่ยนไปมาก../เเต่ยังดีที่ฝรั่งคนนี้หาข้อมูลมาก่อนเรื่องรถตุ๊กตุ๊ก-แท๊กซี่..

  14. ดูท่าทางคนนี้ไม่ค่อยชอบประเทศเราเท่าไหร่นะ
    คงไม่ดีเท่ากับกัมพูชาและเวียดนามที่เค้าเคยเที่ย?วมาแหละ..555

  15. ตุ๊กตุ๊ก แท๊กซี่ พ่อค้าแม่ค้า(บางคน) ตอนนี้เริ่มมีเสียงตำหนิเสียงบ่นมากขึ้น กับการโกง การเอาเปรียบนักท่องเที่ยว อีกหน่อยก็จะไม่มีใครใช้บริการแล้วอย่ามาบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดีแล้วกัน พวกคุณคือคนกลุ่มแรกๆที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว แต่พวกคุณก็ทุบหม้อข้าวตัวเอง แถมยังทำให้ชื่อเสียงของคนส่วนใหญ่ในประเทศเสียหายไปด้วย นักท่องเที่ยวไม่ไปเวียดนาม , กัมพูชา เพราะเรื่องการโกงการเอาเปรียบ อีกหน่อยก็ประเทศไทย สนับสนุนให้ภาครัฐจัดการคนพวกนี้ให้เด็ดขาดหรือมีมาตรการป้องกันอะไรก็ได้โดยด่วน

  16. ฝากท่านชัชชาติดูแลด้วยครับพวกขายของเกินราคาแท๊กชี่ตุ้กๆโกง มาดูแลด้วยครับทานขอบคุณครับ อย่ามัวแต่ไปเอาใจพวกหาบเร่แผงลอย

  17. เกลียดพวกรถตุ๊กๆ จริงๆเลย ทำไมต้องทำให้เสียภาพลักษณ์เมืองไทยขนาดนี้…จริงๆ ถ้าไม่โกง ไม่หลอก ต่างชาติเค้าก็อยากจะลองนั่งตุ๊กตุ๊กกันอยู่แล้ว เพราะที่บ้านเค้าไม่มี มันเป็นรถสัญลักษณ์ของเมืองไทยเลยนะ…ตำรวจก็ไม่ปราบจริงจัง รัฐบาลก็ส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่นั่น แต่ไม่ดูแลเรื่องพวกนี้เลย

  18. เมืองไทยจุดเด่นคืออาหารถูกเลือกระดับได้ ที่พัก ที่เที่ยว ผู้คนความปลอดภัยงบที่คุ้มค่า

  19. พวกแท็กซี่และตุ๊ก ๆ ที่โกงราคาผู้โดยสาร หน่วยงานของรัฐฯ ควรเร่งจัดการ ถ้าปล่อยไว้จะทำให้การท่องเทีายวไทยเสียชื่อเสียงได้

  20. นักท่องเที่ยวครับอย่าใช้บริการแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก จักรยานยนต์ เพราะมันชอบเอาเปรียบผู้รับบริการครับ

  21. ไม่ใช่เพราะสถานที่ แต่เป็นผู้คนสินะ?

  22. สรุปยูจินก็โดนเสียแล้วในทริปนี้555

Trả lời

Email của bạn sẽ không được hiển thị công khai. Các trường bắt buộc được đánh dấu *