ระวัง!!! กด Angry มั่วซั่วเพื่อนใน Facebook จะหายไปแบบไม่รู้ตัว!!!

สิ่งที่ฉันคิดว่าทุกคนควรรู้ในตอนนี้คือ Facebook ได้เปิดตัวปุ่ม Like ใหม่ ซึ่งเปิดตัวออกมาแล้วผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าปุ่ม Like ใหม่นี้มาพร้อมกับความสามารถพิเศษที่น่าสนใจบางอย่าง? เนื่องจากทีม Facebook ได้วางแผนที่จะสร้าง Emoji ใหม่นี้มาระยะหนึ่งแล้ว นั่นหมายความว่ามีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา และมาดูกันว่าฟีเจอร์ใหม่นี้จะน่าสนใจขนาดไหน

gv2h3kyus0

ก่อนที่จะสร้างอิโมจิใหม่ Julie Zhuo ผู้อำนวยการออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Facebook ได้สังเกตพฤติกรรมของผู้ใช้ Facebook ซึ่งมีผู้ใช้ 1.44 พันล้านคนทั่วโลก โดย 90% เป็นผู้ใช้บนมือถือ แนวคิดจึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแสดงบางสิ่งที่ง่ายกว่าการแสดงความคิดเห็นหรือชอบ และตรงไปตรงมาโดยไม่ต้องมีเหตุผลมากนัก และสุดท้ายก็ออกมาเป็นอิโมจิหรืออีโมติคอนที่ใช้แสดงอารมณ์หรือความรู้สึกแบบง่ายๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะอารมณ์หรือความรู้สึกของมนุษย์มีความหลากหลายมาก คำถามคือจะจำแนกอย่างไรให้เหมาะกับจิตใจของคนส่วนใหญ่

image291

Facebook ได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจและนำ Vyvyan Evans ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Bangor เข้ามา ซึ่งศึกษาการใช้อีโมติคอนในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังนำ Dacher Keltner ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยามาเป็นที่ปรึกษา ศาสตราจารย์เป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดนิยมเรื่อง Inside Out ซึ่งตัวละครแต่ละตัวแสดงถึงอารมณ์ต่างๆ ของมนุษย์ มนุษย์เป็นพื้นฐานในการสร้างอีโมจิ และจะได้รับอีโมจิทั้งหมด 20-25 ตัว ซึ่งมากกว่าความต้องการของ Facebook

344

ค้นหาอารมณ์ที่ผู้คนมักแสดงออก ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ Facebook ทั่วโลกว่า Emoji ประเภทใดใช้มากที่สุด รวมถึงความคิดเห็นที่ใช้บ่อยจนกลายเป็น 6 อิโมติคอนตามที่ได้ปล่อยออกมาแล้ว และนอกจากนี้ ทีมงานยังได้นำผลการวิจัยไปปรับอัลกอริทึมใน Facebook ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้มากขึ้น สิ่งนี้จะทำให้ Emoji ใหม่ดีกว่าความสวยงามเช่นกัน

เช่น ถ้าเรากด Angry กับเพื่อนหลายๆ คน Facebook จะค่อยๆ ซ่อนเรื่องใหม่ๆ ของเพื่อนที่ไม่ให้เรารู้และถ้าเรากด Love กับเพื่อนที่มาก เรื่องราวของเพื่อนคนนั้นจะแสดงให้เราเห็นก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งโดยรวมถือว่ามีประโยชน์มากเพราะเราจะเห็นเฉพาะสิ่งที่เราชอบหรือสนใจจริงๆ แรก

ภาพหลักและดูเหมือนว่าทุกวันนี้ Facebook จะรู้จักเรามากกว่าเพื่อน ไม่ว่าคุณจะชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เกิดวันไหน อาศัยอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ เหมือนถูกจับตามองหรือควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง หากคุณไม่ต้องการให้ Facebook ทำเช่นนั้น มีวิธีง่ายๆ นั่นคือเพียงแค่เลือกชอบในแบบเดียวกัน Facebook จะไม่รบกวนพฤติกรรมส่วนตัวของเรา งานนี้.ใครที่คิดจะแกล้งเพื่อนด้วยการกด Angry จะต้องคิดให้รอบคอบก่อนทำ เพราะเราอาจไม่รู้ข่าวหรือเรื่องราวใหม่ๆ ในชีวิตของเพื่อนคนนั้น และอาจทำให้ข่าวหายหรือพลาดประเด็นสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งถือว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันมีทั้งความล้ำหน้าและน่ากลัวไปพร้อมกัน กันมากขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าจะใช้งานอย่างมีสติหรือไม่

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก

minimore.com


Thông tin thêm

ระวัง!!! กด Angry มั่วซั่วเพื่อนใน Facebook จะหายไปแบบไม่รู้ตัว!!!

#ระวง #กด #Angry #มวซวเพอนใน #Facebook #จะหายไปแบบไมรตว
[rule_3_plain] #ระวง #กด #Angry #มวซวเพอนใน #Facebook #จะหายไปแบบไมรตว
สิ่งที่ผมคิดว่าทุกคนน่าจะรู้กันหมดแล้วในขณะนี้นั่นคือ Facebook ได้เปิดตัวปุ่ม Like แบบใหม่ซึ่งได้ทะยอยปล่อยออกมาผู้คนได้ใช้เริ่มงานกันมากขึ้นเรื่อยๆ  แต่รู้หรือไม่ว่าปุ่ม Like แบบใหม่นี้มาพร้อมกับความสามารถพิเศษที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทีมงาน Facebook นั้นได้วางแผนการสร้าง Emoji แบบใหม่นี้มาสักระยะหนึ่งแล้วนั่นหมายความว่าย่อมมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และมาดูกันว่าลูกเล่นใหม่นี้จะน่าสนใจขนาดไหน ก่อนที่จะสร้าง Emoji แบบใหม่นี้ Julie Zhuo ซึ่งเป็น Product Design Director ของ Facebook ได้ทำการสังเกตพฤติกรรมผู้ใช้งาน Facebook ซึ่งมีผู้ใช้กว่า 1.44 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่ง 90% ของผู้ใช้งานนั้นเล่นผ่านมือถือ จึงได้เกิดไอเดียที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงอะไรสักอย่างที่ง่ายกว่าการคอมเมนท์หรือการกดไลค์แถมยังตรงกับใจคิดโดยไม่ต้องสื่อความหมายอะไรมากมาย และสุดท้ายจึงได้ออกมาเป็น Emoji หรืออีโมติคอนที่ใช้ในการแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกอย่างง่ายๆ นั่นเอง ซึ่งก็มีความท้าทาย เพราะอารมณ์หรือความรู้สึกของมนุษย์นั้นมีหลากหลายมากๆ คำถามคือจะจำแนกยังไงให้ตรงกับใจของคนส่วนใหญ่ Facebook จึงได้ตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้น และได้ดึงตัว Vyvyan Evans ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Bangor ผู้ศึกษาการใช้อิโมติคอนในการสื่อสารในชีวิตประจำวันมาร่วมคิดวิเคราะห์ นอกจากนี้ยังดึง Dacher Keltner ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยามาเป็นที่ปรึกษาอีกด้วย  ซึ่งศาสตราจารย์คนนี้เคยเป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ให้กับหนังแอนนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Inside Out ซึ่งตัวละครแต่ละตัวจะเป็นตัวแทนทางด้านอารมณ์ต่างๆ ของมนุษย์ และ Dacher Keltner ได้สรุปว่าหากต้องการจะใช้อารมณ์ของมนุษย์มาเป็นพื้นฐานในการสร้าง Emoji ก็จะได้ Emoji ทั้งหมดราว 20-25 ตัวขึ้นไป ซึ่งก็เยอะเกินความต้องการของ Facebook ไปเสียอีก การค้นหาอารมณ์ความรู้สึกที่คนเราจะแสดงออกมาบ่อยๆ จึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน Facebook ทั่วโลกว่าใช้งาน Emoji ประเภทไหนมากที่สุด รวมถึงคอมเมนท์ที่ใช้กันบ่อยๆ จนได้เป็นอีโมติคอน 6 ตัว อย่างที่ได้เปิดตัวไปแล้วในตอนนี้ และนอกจากนี้ทางทีมงานยังได้นำข้อมูลที่ค้นพบไปปรับอัลกอริธึมใน Facebook ให้สอคคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ Emoji แบบใหม่นี้มีดีมากกว่าความสวยงามอีกด้วยยกตัวอย่างเช่นหากเรากด Angry กับเพื่อนคนไหนมากๆ Facebook จะค่อยๆ ซ่อนเรื่องราวใหม่ๆ ของเพื่อนคนนั้นไม่ให้เราได้รับรู้ และหากเรากด Love กับเพื่อนคนไหนมากๆ เรื่องราวของเพื่อนคนนั้นจะแสดงให้เราได้เห็นเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ เพราะเราจะได้เห็นแต่ในสิ่งที่เราชอบหรือสนใจจริงๆ เป็นอันดับแรกๆ และดูเหมือนว่าทุกวันนี้ Facebook นั้นรู้จักตัวเรามากกว่าเพื่อนของเราเสียอีก ไม่ว่าจะชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เกิดวันไหน บ้านอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วก็เหมือนกับถูกจับตามองหรือควบคุมพฤติกรรมยังไงยังงั้น ซึ่งถ้าไม่ต้องการให้ Facebook ทำอย่างนั้นก็มีวิธีง่ายๆ นั่นคือแค่เลือกกดไลค์แบบเดิมไปเท่านั้น Facebook ก็จะไม่ยุ่งกับพฤติกรรมส่วนตัวของเรา งานนี้ใครที่กำลังคิดจะแกล้งเพื่อนด้วยการกด Angry ก็คงต้องไตร่ตรองให้ดีก่อนจะทำ เพราะเราอาจจะไม่รู้ข่าวสารหรือเรื่องราวใหม่ๆ ในชีวิตของเพื่อนคนนั้น และอาจจะทำให้ตกข่าวหรือพลาดประเด็นที่สำคัญๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งถือว่าเทคโนโลยีในทุกวันนี้นั้นทั้งก้าวหน้าและก็น่ากลัวไปพร้อมๆ กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานว่าจะใช้งานอย่างมีสติหรือไม่นั่นเอง ขอบคุณข้อมูลดีๆจากminimore.com jQuery(document).ready(function($) {
$.post(‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘wpt_view_count’, id: ‘167615’});
}); jQuery(document).ready(function( $) {
$.post( ‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘mts_view_count’, id: ‘167615’});
});
#ระวง #กด #Angry #มวซวเพอนใน #Facebook #จะหายไปแบบไมรตว
[rule_2_plain] #ระวง #กด #Angry #มวซวเพอนใน #Facebook #จะหายไปแบบไมรตว
[rule_2_plain] #ระวง #กด #Angry #มวซวเพอนใน #Facebook #จะหายไปแบบไมรตว
[rule_3_plain]

#ระวง #กด #Angry #มวซวเพอนใน #Facebook #จะหายไปแบบไมรตว
สิ่งที่ผมคิดว่าทุกคนน่าจะรู้กันหมดแล้วในขณะนี้นั่นคือ Facebook ได้เปิดตัวปุ่ม Like แบบใหม่ซึ่งได้ทะยอยปล่อยออกมาผู้คนได้ใช้เริ่มงานกันมากขึ้นเรื่อยๆ  แต่รู้หรือไม่ว่าปุ่ม Like แบบใหม่นี้มาพร้อมกับความสามารถพิเศษที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทีมงาน Facebook นั้นได้วางแผนการสร้าง Emoji แบบใหม่นี้มาสักระยะหนึ่งแล้วนั่นหมายความว่าย่อมมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และมาดูกันว่าลูกเล่นใหม่นี้จะน่าสนใจขนาดไหน ก่อนที่จะสร้าง Emoji แบบใหม่นี้ Julie Zhuo ซึ่งเป็น Product Design Director ของ Facebook ได้ทำการสังเกตพฤติกรรมผู้ใช้งาน Facebook ซึ่งมีผู้ใช้กว่า 1.44 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่ง 90% ของผู้ใช้งานนั้นเล่นผ่านมือถือ จึงได้เกิดไอเดียที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงอะไรสักอย่างที่ง่ายกว่าการคอมเมนท์หรือการกดไลค์แถมยังตรงกับใจคิดโดยไม่ต้องสื่อความหมายอะไรมากมาย และสุดท้ายจึงได้ออกมาเป็น Emoji หรืออีโมติคอนที่ใช้ในการแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกอย่างง่ายๆ นั่นเอง ซึ่งก็มีความท้าทาย เพราะอารมณ์หรือความรู้สึกของมนุษย์นั้นมีหลากหลายมากๆ คำถามคือจะจำแนกยังไงให้ตรงกับใจของคนส่วนใหญ่ Facebook จึงได้ตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้น และได้ดึงตัว Vyvyan Evans ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Bangor ผู้ศึกษาการใช้อิโมติคอนในการสื่อสารในชีวิตประจำวันมาร่วมคิดวิเคราะห์ นอกจากนี้ยังดึง Dacher Keltner ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยามาเป็นที่ปรึกษาอีกด้วย  ซึ่งศาสตราจารย์คนนี้เคยเป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ให้กับหนังแอนนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Inside Out ซึ่งตัวละครแต่ละตัวจะเป็นตัวแทนทางด้านอารมณ์ต่างๆ ของมนุษย์ และ Dacher Keltner ได้สรุปว่าหากต้องการจะใช้อารมณ์ของมนุษย์มาเป็นพื้นฐานในการสร้าง Emoji ก็จะได้ Emoji ทั้งหมดราว 20-25 ตัวขึ้นไป ซึ่งก็เยอะเกินความต้องการของ Facebook ไปเสียอีก การค้นหาอารมณ์ความรู้สึกที่คนเราจะแสดงออกมาบ่อยๆ จึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน Facebook ทั่วโลกว่าใช้งาน Emoji ประเภทไหนมากที่สุด รวมถึงคอมเมนท์ที่ใช้กันบ่อยๆ จนได้เป็นอีโมติคอน 6 ตัว อย่างที่ได้เปิดตัวไปแล้วในตอนนี้ และนอกจากนี้ทางทีมงานยังได้นำข้อมูลที่ค้นพบไปปรับอัลกอริธึมใน Facebook ให้สอคคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ Emoji แบบใหม่นี้มีดีมากกว่าความสวยงามอีกด้วยยกตัวอย่างเช่นหากเรากด Angry กับเพื่อนคนไหนมากๆ Facebook จะค่อยๆ ซ่อนเรื่องราวใหม่ๆ ของเพื่อนคนนั้นไม่ให้เราได้รับรู้ และหากเรากด Love กับเพื่อนคนไหนมากๆ เรื่องราวของเพื่อนคนนั้นจะแสดงให้เราได้เห็นเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ เพราะเราจะได้เห็นแต่ในสิ่งที่เราชอบหรือสนใจจริงๆ เป็นอันดับแรกๆ และดูเหมือนว่าทุกวันนี้ Facebook นั้นรู้จักตัวเรามากกว่าเพื่อนของเราเสียอีก ไม่ว่าจะชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เกิดวันไหน บ้านอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วก็เหมือนกับถูกจับตามองหรือควบคุมพฤติกรรมยังไงยังงั้น ซึ่งถ้าไม่ต้องการให้ Facebook ทำอย่างนั้นก็มีวิธีง่ายๆ นั่นคือแค่เลือกกดไลค์แบบเดิมไปเท่านั้น Facebook ก็จะไม่ยุ่งกับพฤติกรรมส่วนตัวของเรา งานนี้ใครที่กำลังคิดจะแกล้งเพื่อนด้วยการกด Angry ก็คงต้องไตร่ตรองให้ดีก่อนจะทำ เพราะเราอาจจะไม่รู้ข่าวสารหรือเรื่องราวใหม่ๆ ในชีวิตของเพื่อนคนนั้น และอาจจะทำให้ตกข่าวหรือพลาดประเด็นที่สำคัญๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งถือว่าเทคโนโลยีในทุกวันนี้นั้นทั้งก้าวหน้าและก็น่ากลัวไปพร้อมๆ กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานว่าจะใช้งานอย่างมีสติหรือไม่นั่นเอง ขอบคุณข้อมูลดีๆจากminimore.com jQuery(document).ready(function($) {
$.post(‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘wpt_view_count’, id: ‘167615’});
}); jQuery(document).ready(function( $) {
$.post( ‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘mts_view_count’, id: ‘167615’});
});

About Lê Lan Ánh

Check Also

[เก่าแต่เก๋า] แนะนำมือถือปรับราคา สเปคแรง กล้องแจ่ม คุ้มค่า น่าซื้อ

ช่วงนี้เป็นช่วงที่มือถือสมาร์ทโฟนเปลี่ยนไป หลายแบรนด์กำลังจะออกรุ่นใหม่ๆ ตีตลาดเร็วๆ นี้ เป็นธรรมชาติของมือถือรุ่นเก่า ที่จะถูกปรับราคาไปตามระเบียบ ส่วนใครที่ซื้อไปก่อนอาจจะปวดหลัง (หลักหัก) นิดหน่อย แต่ถ้าใครต้องการเปลี่ยนมือถือใหม่ บอกเลยว่าพลาดไม่ได้แน่นอน เลยได้รวบรวมสุดยอดมือถือปรับราคาเน้นสเปคแรงใช้งานได้นาน ในตอนแรกคุณอาจรู้สึกเฉยๆ เพราะราคาสูง แต่พอปรับราคาเท่านั้นแหละน่าซื้อ …

Trả lời

Email của bạn sẽ không được hiển thị công khai. Các trường bắt buộc được đánh dấu *